๓๔๙    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๓๕๑
รู้ธรรมคืออริยสัจสี่ด้วยมรรค.    บทว่า   นิพฺพานปทาภิปฏฺ€ยาโน   ได้แก่
ปรารถนาบทคืออนุปาทิเสสนิพพาน.  บทที่เหลือมีความง่ายทั้งนั้น.
         พึงทราบวินิจฉัยในคาถาที่   ๗.
         บทว่า    อกฺกุฏฺโ€    ได้แก่   ข้องอยู่ในอักโกสวัตถุสิบอย่าง.  บทว่า
น  สนฺธิเยถ  ได้แก่ ไม่ผูกโกรธต่อไม่พึงโกรธ.  บทว่า  ลทฺธา  ปรโภชนํ
น   มชฺเช  ได้แก่ ได้ของที่เขาให้ด้วยศรัทธา   อันคนอื่นให้แล้วไม่พึงเมาว่า
เราเป็นผู้มีชื่อเสียง  มียศ   มีลาภ  ดังนี้.  บทที่เหลือมีความง่ายทั้งนั้น.
         พึงทราบวินิจฉัยในคาถาที่   ๘.
         บทว่า  โลภํ  ได้แก่  ความโลภจัด.  บทว่า  ภวํ  ได้แก่ กามภพเป็นต้น.
ท่านกล่าวภวตัณหาและโภคตัณหาด้วยบททั้งสองอย่างนี้   อีกอย่างหนึ่งท่านกล่าว
ตัณหาทั้งหมดด้วยบทต้น   กล่าวกามภพด้วยบทหลัง.  บทว่า  วิรโต   เฉทน-
พนฺธนโต  ได้แก่ เว้นจากการตัดและการจองจำสัตว์อื่น  เพราะละกรรมกิเลส
เหล่านั้นได้โดยสิ้นเชิงแล้ว.  บทที่เหลือในที่นี้   มีนัยดังได้กล่าวได้เเล้วนั่นแล.
         พึงทราบวินิจฉัยในคาถาที่   ๙.
         บทว่า  สารุปฺปมตฺตโน   วิทิตฺวา  ได้แก่  รู้การปฏิบัติอันสมควร
แก่ความเป็นภิกษุของตน    ด้วยการละการแสวงหาอันไม่สมควรเป็นต้น    แล้ว
ดำรงมั่นอยู่ในอาชีวะบริสุทธิ์มีการแสวงหาโดยชอบเป็นต้น   และการปฏิบัติชอบ
อย่างอื่น.  ไม่ใช่ด้วยเพียงรู้อะไร ๆ เท่านั้น.   บทว่า  ยถาตถํ  ได้แก่  รู้ตาม
ความเป็นจริง.  บทว่า  ธมฺมํ  ได้แก่  รู้ธรรมประเภทมีขันธ์  อายตนะเป็นต้น
ด้วยญาณตามความเป็นจริง    หรือรู้ธรรมคืออริยสัจสี่ด้วยมรรค.    บทที่เหลือ
มีความง่ายทั้งนั้น.
หน้า ๓๕๐