| รู้ธรรมคืออริยสัจสี่ด้วยมรรค. บทว่า นิพฺพานปทาภิปฏฺยาโน ได้แก่ |
| ปรารถนาบทคืออนุปาทิเสสนิพพาน. บทที่เหลือมีความง่ายทั้งนั้น. |
| พึงทราบวินิจฉัยในคาถาที่ ๗. |
| บทว่า อกฺกุฏฺโ ได้แก่ ข้องอยู่ในอักโกสวัตถุสิบอย่าง. บทว่า |
| น สนฺธิเยถ ได้แก่ ไม่ผูกโกรธต่อไม่พึงโกรธ. บทว่า ลทฺธา ปรโภชนํ |
| น มชฺเช ได้แก่ ได้ของที่เขาให้ด้วยศรัทธา อันคนอื่นให้แล้วไม่พึงเมาว่า |
| เราเป็นผู้มีชื่อเสียง มียศ มีลาภ ดังนี้. บทที่เหลือมีความง่ายทั้งนั้น. |
| พึงทราบวินิจฉัยในคาถาที่ ๘. |
| บทว่า โลภํ ได้แก่ ความโลภจัด. บทว่า ภวํ ได้แก่ กามภพเป็นต้น. |
| ท่านกล่าวภวตัณหาและโภคตัณหาด้วยบททั้งสองอย่างนี้ อีกอย่างหนึ่งท่านกล่าว |
| ตัณหาทั้งหมดด้วยบทต้น กล่าวกามภพด้วยบทหลัง. บทว่า วิรโต เฉทน- |
| พนฺธนโต ได้แก่ เว้นจากการตัดและการจองจำสัตว์อื่น เพราะละกรรมกิเลส |
| เหล่านั้นได้โดยสิ้นเชิงแล้ว. บทที่เหลือในที่นี้ มีนัยดังได้กล่าวได้เเล้วนั่นแล. |
| พึงทราบวินิจฉัยในคาถาที่ ๙. |
| บทว่า สารุปฺปมตฺตโน วิทิตฺวา ได้แก่ รู้การปฏิบัติอันสมควร |
| แก่ความเป็นภิกษุของตน ด้วยการละการแสวงหาอันไม่สมควรเป็นต้น แล้ว |
| ดำรงมั่นอยู่ในอาชีวะบริสุทธิ์มีการแสวงหาโดยชอบเป็นต้น และการปฏิบัติชอบ |
| อย่างอื่น. ไม่ใช่ด้วยเพียงรู้อะไร ๆ เท่านั้น. บทว่า ยถาตถํ ได้แก่ รู้ตาม |
| ความเป็นจริง. บทว่า ธมฺมํ ได้แก่ รู้ธรรมประเภทมีขันธ์ อายตนะเป็นต้น |
| ด้วยญาณตามความเป็นจริง หรือรู้ธรรมคืออริยสัจสี่ด้วยมรรค. บทที่เหลือ |
| มีความง่ายทั้งนั้น. |