๓๗๐    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๓๗๒
         ลำดับนั้น   พระผู้มีพระภาคเจ้า   เพื่อจะทรงแสดงปฏิปทาของนักบวช
ก่อน    ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาแล้วจึงตรัสคำมีอาทิว่า  สุณาถ  เม  ภิกฺขเว
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย   เธอทั้งหลายจงฟังเราดังนี้.
         ในบทเหล่านั้น   บทว่า   ธมฺมํ   ธุตํ   ตญฺจ  จรถ  สพฺเพ  ความว่า
ธรรมชื่อว่า   ธุตะ  เพราะกำจัดกิเลสทั้งหลาย   เราจะยังเธอทั้งหลายให้ฟังธรรม
ปฏิบัติอันกำจัดกิเลสเห็นปานนี้  และเธอทั้งปวงจงประพฤติคือปฏิบัติธรรมที่เรา
ประกาศแล้ว   อธิบายว่า  พวกเธออย่าประมาท  ดังนี้.  บทว่า  อิริยาปถํ ได้แก่
อิริยาบถ ๔ มีการเดินเป็นต้น.   บทว่า  ปพฺพชิตานุโลมิกํ  ได้แก่ อิริยาบถ
อันสมควรแก่สมณะ  คือ  ประกอบด้วยสติสัมปชัญญะ.    อาจารย์อีกพวกหนึ่ง
กล่าวว่า อิริยาบถอันเป็นไปด้วยการบำเพ็ญกรรมฐานในป่า.  บทว่า เสเวถ  นํ
คือพึงเสพอิริยาบถนั้น. บทว่า อตฺถทสฺสี  คือ ผู้เป็นประโยชน์เกื้อกูล.   บทว่า
มติมา  คือมีความคิด.  บทที่เหลือปรากฏชัดแล้วในคาถานี้.
         บทว่า   โน  เว  วิกาเล    ความว่า  ภิกษุเสพอิริยาบถสมควรแก่
บรรพชิตอย่างนี้    ไม่ควรเที่ยวไปในเวลาวิกาล    หมายถึงเลยเที่ยงวันไป   แต่
ควรเที่ยวไปเพื่อบิณฑบาตในบ้านในกาลอันสมควร.   บทว่า    อกาลจารึ   หิ
สชนฺติ  สงฺคา  ความว่า  ธรรมเป็นเครื่องข้องทั้งหลายไม่น้อยมีข้องด้วยราคะ
เป็นต้น   ย่อมข้อง   คือเกี่ยวข้อง   เข้าไปจับ   ติดบุคคลผู้เที่ยวไปในกาลอันไม่
สมควร.  เพราะเหตุนั้น   ท่านผู้รู้ทั้งหลาย   ย่อมไม่เที่ยวไปในเวลาวิกาล  ฉะนั้น
พระอริยบุคคลผู้ตรัสรู้อริยสัจ  ๔  ย่อมไม่เที่ยวบิณฑบาตในเวลาวิกาล.    นัยว่า
สมัยนั้นยังมิได้บัญญัติวิกาลโภชนสิกขาบท.   เพราะฉะนั้น  พระผู้มีพระภาคเจ้า
หน้า ๓๗๑