๓๗๖    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๓๗๘
         พระผู้มีพระภาคเจ้าครั้นทรงแสดงแม้สิกขาบทที่สี่ชัดเจนดีแล้ว     เมื่อ
จะทรงแสดงสิกขาบทที่ห้า  จึงตรัสว่า  มชฺชญฺจ   ปานํ  พึงเว้นการดื่มน้ำเมา
ดังนี้.
         ในบทเหล่านั้น บทว่า  มชฺชญฺจ  ปานํ  ท่านกล่าวอย่างนี้เพื่อสะดวก
ในการแต่คาถา. แต่มีใจความ  มชฺชปานญฺจ  สมาจเรยฺย   ไม่พึงดื่มน้ำเมา.
บทว่า  ธมฺมํ อิทํ  ได้แก่ ธรรมคือเว้นจากการดื่มน้ำเมา. บทว่า อุมฺมาทนนฺตํ
คือการดื่มน้ำเมานั้นมีความบ้าเป็นที่สุด.  เพราะว่า    ผลของการดื่มน้ำเมาอย่าง
เบาเมื่อเป็นมนุษย์  ก็เป็นบ้า. บทว่า อิติ  นํ  วิทิตฺวา คือรู้ชัดการดื่มน้ำเมานั้น.
บทที่เหลือในข้อนี้มีนัยดังกล่าวแล้ว   และปรากฏชัดแล้ว.
         พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงแม้สิกขาบทที่ห้าให้บริสุทธิ์ที่ชัดเจนอย่างนี้
แล้ว    บัดนี้     เมื่อจะทรงแสดงถึงการดื่มน้ำเมาแห่งสิกขาบทก่อนว่าเป็นการทำ
ความเศร้าหมองและก่อเวร      ทรงชักชวนในการเว้นจากการดื่มน้ำเมานั้นให้
มั่นคงยิ่งขึ้นจึงตรัสว่า  มทา  หิ  ปาปานิ  กโรนฺติ   เพราะคนพาลทั้งหลาย
ย่อมกระทำบาป   เพราะความเมาดังนี้.
         ในบทเหล่านั้น    บทว่า  มทา  คือเพราะเหตุแห่งความเมา.   หิ เป็น
นิบาตเพียงทำบทให้เต็ม.  บทว่า อุมฺมาทนํ  โมหนํ  ได้แก่ ความบ้าในโลก
หน้า   ความหลงในโลกนี้.  บทที่เหลือมีความง่ายทั้งนั้น.
         พระผู้มีพระภาคเจ้า    ครั้นทรงแสดงนิจศีลของสาวกผู้ครองเรือนด้วย
เหตุเพียงเท่านี้แล้ว   บัดนี้เมื่อจะทรงแสดงองค์แห่งอุโบสถ  จึงตรัสสองคาถาว่า
ปาณํ  น  หเน  บุคคลไม่พึงฆ่าสัตว์   ดังนี้.
หน้า ๓๗๗