๓๗๗    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๓๗๙
         ในบทเหล่านั้น   บทว่า อพฺรหฺมจริยา  ได้แก่  ประพฤติธรรมไม่ประ-
เสริฐ.  บทว่า  เมถุนา  คือพึงเว้นจากการเข้าถึงเมถุนธรรม.  บทว่า  รตฺตึ   น
ภุญฺเชยฺย  วิกาลโภชนํ  ได้แก่  ไม่พึงบริโภคแม้ในกลางคืน  ไม่พึงบริโภค
โภชนะล่วงกาลแม้ในกลางวัน.   แม้แป้งสำหรับลูบไล้  พึงทราบว่า   ท่านถือเอา
ด้วยคันธศัพท์ในบทว่า  น จ  คนฺธํ  นี้. บทว่า  มญฺเจ  คือเตียงที่เป็นกัปปิยะ.
บทว่า สนฺถเต ได้แก่  บนพื้นที่เขาลาดแล้วด้วยเครื่องลาดอันเป็นกัปปิยะ  มีเสื่อ
ผืนเล็กเป็นต้น.  แม้ลาดด้วยเครื่องลาดมีพรมทำด้วยขนแกะเป็นต้นบนแผ่นดิน
ก็ควร.   บทว่า   อฏฺ€งฺคิกํ   คือไม่พ้นองค์ ๘  ดุจดนตรีมีองค์   ๕.    บทว่า
ทุกฺขนฺตคุนา   คือพระพุทธเจ้าผู้ถึงที่สุดแห่งทุกข์ในวัฏฏะ.   บทที่เหลือในข้อ
นี้ปรากฏชัดดีแล้ว.  พระโบราณาจารย์กล่าวไว้ว่า  ก็กึ่งคาถาหลัง  พระสังคีติกา-
จารย์กล่าวไว้แล้วบ้าง.
         พระผู้มีพระภาคเจ้า  ครั้นทรงแสดงองค์แห่งอุโบสถอย่างนี้แล้ว   บัดนี้
เมื่อจะทรงแสดงกาลแห่งอุโบสถ  จึงตรัส ว่า   ตโต  จ   ปกฺขสฺส   ดังนี้.
         ในบทเหล่านั้น  บทว่า  ตโต  เป็นนิบาตเพียงทำบทให้บริบูรณ์.  พึง
ประกอบด้วยบทอื่นอย่างนี้ว่า ปกฺขสสุปวสฺสุโปสถํ  ความว่า พึงเข้าจำอุโบสถ
ทุก ๓ วันเหล่านี้คือ   ตลอด ๑๔ ค่ำ ๑๕ ค่ำ   และ  ๘  ค่ำแห่งปักษ์   พึงเข้าจำ
อุโบสถประกอบด้วยองค์ ๘ นี้แล.  ก็ในบทว่า  ปาฏิหาริกปกฺขญฺจ   นี้   ห้า
เดือนเหล่านี้คือ (อาสาฬหะ) เดือน ๘ ต้นใกล้วันเข้าพรรษา  สามเดือนในพรรษา
และเดือน ๑๒ ท่านเรียกว่าปาฏิหาริยปักษ์.   อาจารย์พวกอื่นกล่าวว่าปาฏิหาริย.
ปักษ์  มีสามเดือนเท่านั้นคือเดือน ๘ เดือน ๑๒ และเดือน  ๔,  อาจารย์อีกพวก
หนึ่งกล่าวว่ามี ๔ วัน  คือ ๑๓ ค่ำ ๑ ค า ๗ ค่ำ  และ ๙ ค่ำในทุก ๆ ปักษ์ โดย
หน้า ๓๗๘