| ในบทเหล่านั้น บทว่า อพฺรหฺมจริยา ได้แก่ ประพฤติธรรมไม่ประ- |
| เสริฐ. บทว่า เมถุนา คือพึงเว้นจากการเข้าถึงเมถุนธรรม. บทว่า รตฺตึ น |
| ภุญฺเชยฺย วิกาลโภชนํ ได้แก่ ไม่พึงบริโภคแม้ในกลางคืน ไม่พึงบริโภค |
| โภชนะล่วงกาลแม้ในกลางวัน. แม้แป้งสำหรับลูบไล้ พึงทราบว่า ท่านถือเอา |
| ด้วยคันธศัพท์ในบทว่า น จ คนฺธํ นี้. บทว่า มญฺเจ คือเตียงที่เป็นกัปปิยะ. |
| บทว่า สนฺถเต ได้แก่ บนพื้นที่เขาลาดแล้วด้วยเครื่องลาดอันเป็นกัปปิยะ มีเสื่อ |
| ผืนเล็กเป็นต้น. แม้ลาดด้วยเครื่องลาดมีพรมทำด้วยขนแกะเป็นต้นบนแผ่นดิน |
| ก็ควร. บทว่า อฏฺงฺคิกํ คือไม่พ้นองค์ ๘ ดุจดนตรีมีองค์ ๕. บทว่า |
| ทุกฺขนฺตคุนา คือพระพุทธเจ้าผู้ถึงที่สุดแห่งทุกข์ในวัฏฏะ. บทที่เหลือในข้อ |
| นี้ปรากฏชัดดีแล้ว. พระโบราณาจารย์กล่าวไว้ว่า ก็กึ่งคาถาหลัง พระสังคีติกา- |
| จารย์กล่าวไว้แล้วบ้าง. |
| พระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นทรงแสดงองค์แห่งอุโบสถอย่างนี้แล้ว บัดนี้ |
| เมื่อจะทรงแสดงกาลแห่งอุโบสถ จึงตรัส ว่า ตโต จ ปกฺขสฺส ดังนี้. |
| ในบทเหล่านั้น บทว่า ตโต เป็นนิบาตเพียงทำบทให้บริบูรณ์. พึง |
| ประกอบด้วยบทอื่นอย่างนี้ว่า ปกฺขสสุปวสฺสุโปสถํ ความว่า พึงเข้าจำอุโบสถ |
| ทุก ๓ วันเหล่านี้คือ ตลอด ๑๔ ค่ำ ๑๕ ค่ำ และ ๘ ค่ำแห่งปักษ์ พึงเข้าจำ |
| อุโบสถประกอบด้วยองค์ ๘ นี้แล. ก็ในบทว่า ปาฏิหาริกปกฺขญฺจ นี้ ห้า |
| เดือนเหล่านี้คือ (อาสาฬหะ) เดือน ๘ ต้นใกล้วันเข้าพรรษา สามเดือนในพรรษา |
| และเดือน ๑๒ ท่านเรียกว่าปาฏิหาริยปักษ์. อาจารย์พวกอื่นกล่าวว่าปาฏิหาริย. |
| ปักษ์ มีสามเดือนเท่านั้นคือเดือน ๘ เดือน ๑๒ และเดือน ๔, อาจารย์อีกพวก |
| หนึ่งกล่าวว่ามี ๔ วัน คือ ๑๓ ค่ำ ๑ ค า ๗ ค่ำ และ ๙ ค่ำในทุก ๆ ปักษ์ โดย |