๓๗๘    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๓๘๐
วันก่อนและวันหลัง   ของวันอุโบสถแห่งปักษ์.  ชอบอย่างใดก็พึงถือเอาอย่างนั้น
อันผู้ใคร่บุญพึงทำได้ทุกอย่าง.   พึงผูกใจไว้ว่า  ผู้มีใจเลื่อมใสปฏิหาริยปักษ์นี้
ด้วยประการฉะนี้   ไม่เว้นแม้แต่วันเดียว    เข้าถึงองค์ ๘ ทำให้สมบูรณ์ด้วยดี
บริบูรณ์ด้วยดี   พึงเข้าจำอุโบสถอันประกอบด้วยองค์  ๘.
         พระผู้มีพระภาคเจ้า   ครั้นทรงแสดงกาลแห่งอุโบสถอย่างนี้แล้ว  บัดนี้
เมื่อจะทรงแสดงถึงกิจ  ที่ผู้เข้าจำอุโบสถนั้นในกาลเหล่านั้นควรกระทำ  จึงตรัส
ว่า  ตโต  จ  ปาโต  ดังนี้.
         บทว่า  ตโต   แม้ในบทนี้ก็เป็นนิบาตเพียงทำบทให้เต็ม.   หรือลงใน
อรรถไม่มีระหว่าง  ท่านอธิบายว่า ได้แก่ อถ  แปลว่าครั้งนั้น.  บทว่า   ปาโต
ได้แก่  ส่วนเบื้องต้นของวันอื่น.   บทว่า อุปวุฏฺฐุโปสโถ  ได้แก่ เข้าจำอุโบสถ.
บทว่า อนฺเนน  ได้แก่ข้าวยาคูและภัตรเป็นต้น .  บทว่า ปาเนน คือ น้ำปานะ
๘  อย่าง.  บทว่า  อนุโมทมาโน   ได้แก่ ชื่นชมยินดีอยู่เนือง ๆ  อธิบายว่า
ชื่นชมตลอดกาล.  บทว่า  ยถารหํ  คือสมควรแก่ตน    ท่านอธิบายว่า   ตาม
ความสามารถ   ตามกำลัง.   บทว่า   สํวิภเชถ  คือพึงแจกจ่าย  คือพึงบูชา.  บท
ที่เหลือปรากฏชัดแล้ว.
         พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถึงกิจของผู้เข้าจำอุโบสถอย่างนี้แล้ว      บัดนี้
ตรัสถึงครุวัตร  (การเคารพ)  และอาชีวปาริสุทธิศีล   เมื่อจะทรงแสดงถึงฐานะ
ที่ควรถึงด้วยปฏิปทานั้น   จึงตรัสว่า   ธมฺเมน  มาตาปิตโร  พึงเลี้ยงมารดาบิดา
โดยธรรม  ดังนี้.
         ในบทเหล่านั้น   บทว่า  ธมฺเมน ได้แก่ด้วยโภคสมบัติที่ได้มาโดยชอบ
ธรรม.  บทว่า  ภเรยฺย  ได้แก่ พึงเลี้ยง.  บทว่า   ธมฺมิกํโส  วณิชฺชํ  พึงประ
กอบการค้าขายอันชอบธรรมดังนี้   คือ   เว้นการค้าอันไม่เป็นธรรม    ๕ อย่าง
หน้า ๓๗๙