| บทว่า นีจกุลามิว ความว่า ภิกษุรูปนี้หาเหมือนผู้บวชจากสกุลต่ำ |
| ไม่. ม อักษร เป็นบทสนธิ. บทว่า กุหึ ภิกฺขุ คมิสฺสติ ความว่า พระ |
| เจ้าพิมพิสารตรัสโดยมีพระประสงค์ว่า พวกราชทูตจงรีบไปเพื่อรู้ว่า ภิกษุรูปนี้ |
| จักไปไหน วันนี้จักอยู่ ณ ที่ไหน เพราะเราประโยคสงค์จะเห็นภิกษุรูปนั้น. |
| บทว่า คุตฺตทฺวาโร คือทรงคุ้มครองทวารสำรวมดีแล้วด้วยพระสติ |
| เพราะมีจักษุทอดลง หรือทรงคุ้มครองทวารด้วยสติ คือสำรวมด้วยดี ด้วยการ |
| ครองสังฆาฎิ และจีวรน่าเลื่อมใส. บทว่า ขิปฺปํ ปตฺตํ อปูเรสิ ได้แก่ |
| ได้ทรงยังบาตรให้เต็มเร็วโดยบริบูรณ์ ด้วยพระอัธยาศัยว่า ไม่รับเกินไป หรือ |
| เพียงเท่านี้ก็พอแล้ว เพราะมีสติสัมปชัญญะ. |
| บทว่า มุนี ความว่า ชื่อว่ามุนี เพราะปฏิบัติเพื่อความเป็นผู้ฉลาด |
| อีกอย่างหนึ่ง กล่าวโดยโวหารของชาวโลกว่า แม้ยังไม่ถึงความเป็นผู้ฉลาด ก็ |
| เป็นมุนี. เพราะชาวโลกทั้งหลายกล่าวถึงนักบวชที่ยังไม่ถึงพร้อมด้วยความฉลาด |
| ว่าเป็นมุนี. บทว่า ปณฺฑวํ อภิหาเรสิ ได้แก่พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จขึ้นไป |
| ยังภูเขาปัณฑวะ. ได้ยินว่า ราชทูตถามพวกมนุษย์ว่า ที่นครไม่มีบรรพชิตอยู่ |
| ที่ไหน. พวกมนุษย์จึงบอกแก่เขาว่า มีภิกษุรูปหนึ่งอยู่ที่เงื้อมเขาด้านทิศตะวัน- |
| ออก บนเขาปัณฑวะ เพราะฉะนั้นพระราชาจึงเสด็จขึ้นไปยังภูเขาปัณฑวะนั้น. |
| ทรงดำริอย่างนี้ว่า ณ ภูเขานี้คงจักเป็นที่อยู่. |
| บทว่า พยคฺฆุสโภว สีโหว คิริคพฺภเร คือ เหมือนเสือโคร่ง |
| เหมือนโคอุสุภราช และเหมือนราชสีห์ อาศัยอยู่ในถ้ำภูเขา. เพราะสัตว์ทั้ง ๓ |
| เหล่านี้เป็นสัตว์ประเสริฐที่สุด ไม่กลัวภัย อาศัยอยู่ในถ้ำ เพราะฉะนั้น ราชทูต |
| จึงได้เปรียบเทียบอย่างนี้. |