๔๐๐    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๔๐๒
แก่ผู้อื่น.   บทที่เหลือง่ายทั้งนั้น.  พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงคัดค้านคำนี้ว่า   เมื่อ
เป็นอยู่ท่านจักทำบุญได้ดังนี้   ตรัสคาถานี้ว่า  อณุมตฺโตปิ  แม้มีประมาณน้อย.
         ในบทเหล่านั้น     บทว่า   ปุญฺเน   พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสหมายถึง
บุญอันไปสู่วัฏฏะซึ่งมารกล่าว.  บทที่เหลือง่ายทั้งนั้น.
         บัดนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าคุกคามมารปรารภคำนี้ว่า  ความเป็นอยู่ของ
ท่านมีส่วนเดียว    ตรัสคาถานี้ว่า   อตฺถิ   สทฺธา   ศรัทธามีอยู่ดังนี้.    ในคาถา
นั้นมีอธิบายดังนี้     พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงคุกคามมารอย่างนี้ว่า    ดูก่อนมาร
ใจร้าย   ท่านไม่เชื่อในสันติวรบท    (ทางแห่งความสงบอันประเสริฐ)    อัน
ยอดเยี่ยม   หรือแม้มีศรัทธาก็เกียจคร้าน  หรือมีศรัทธา   แม้ปรารภความเพียร
ก็มีปัญญาทราม    ตามถามความเป็นอยู่    แต่เรามีศรัทธาหยั่งลงในสันติวรบท
อันยอดเยี่ยม    เรามีความเพียรกล่าวคือ   ความพยายามไม่ย่อหย่อนทางกายและ
ทางจิต   และเรามีปัญญาเปรียบดังวชิระ    ท่านถามเราผู้มีตนส่งไปแล้ว    คือมี
อัธยาศัยเลิศ  มีความเป็นอยู่อย่างนี้    เพราะเหตุไรท่านจึงถาม.   ควรประกอบ
สติและสมาธิด้วย    ศัพท์ในบทนี้ว่า  ปญฺา  จ  มม  ดังนี้.  ผู้ประกอบ
ด้วยอินทรีย์  ๕ เหล่าใดย่อมถึงนิพพาน    ในอินทรีย์  ๕ เหล่านั้นแม้อย่างเดียว
ก็เว้นไม่ได้  ท่านถามเราผู้มีตนส่งไปแล้ว   มีความเป็นอยู่อย่างไรมิใช่หรือ.
         พระผู้มีพระภาคเจ้า   ทรงข่มมารอย่างนี้ว่า
                เอกาหํ   ชีวิตํ  เสยฺโย       วิริยมารภโต  ทฬฺหํ
                ปญฺวนฺตสฺส  ฌายิโน     ปสฺสโต  อุทยพฺพยํ.
หน้า ๔๐๑