๔๐๒    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๔๐๔
แรงกล้า  อันเป็นตัวอย่างของเวทนาเหล่านั้น     ย่อมเพ่งเล็งถึงความสุขของผู้อื่น
ผู้อันทุกข์ถูกต้องแล้ว   เพ่งเล็งถึงความร้อน  เมื่อได้รับความหนาว  เพ่งเล็งถึง
ความหนาว    เมื่อได้รับความร้อน    เพ่งเล็งถึงโภชนะ     เมื่อได้รับความหิว
เพ่งเล็งถึงน้ำ  เมื่อได้รับความกระหาย   ฉันใด   จิตย่อมไม่เพ่งเล็งในกามคุณ ๕
แม้กามอย่างหนึ่งฉันนั้น  จิตองเราไม่เกิดด้วยอาการเช่นนี้ว่าไฉนหนอ  เราพึง
บริโภคอาหารดี   ที่นอนสบาย ที่นั่งสบาย ดูก่อนมาร ท่านจงดูความที่สัตว์เป็น
ผู้บริสุทธิ์.
         พระผู้มีพระภาคเจ้า  ครั้นทรงแสดงความที่พระองค์เป็นผู้บริสุทธิ์  เพื่อ
หักร้างความปรารถนาของมารผู้มาแล้ว    ด้วยหวังว่า   จักห้ามพระองค์  เมื่อจะ
ทรงประกาศกะมารและเสนามาร    แล้วทรงแสดงความที่พระองค์เป็นผู้อันมาร
และเสนามารให้แพ้ไม่ได้ด้วยอาการอย่างนี้    จึงกล่าวคาถา ๖  คาถามีอาทิว่า
กามา  เต  ป€มา  เสนา  กามทั้งหลายเป็นเสนาที่หนึ่งของท่าน.
         เพราะกิเลสกามทั้งหลาย     ย่อมยังสัตว์ผู้รองเรือนให้ลุ่มหลงในวัตถุ
กามทั้งหลายแต่ต้นทีเดียว     เมื่อสัตว์ทั้งหลายถูกกิเลสกามครอบงำเข้าไปบวช
แล้ว   ก็จะเกิดความไม่ยินดีในเสนาสนะอันสงัด   หรือในธรรมอันเป็นอธิกุสล
อย่างใดอย่างหนึ่ง.  สมดังที่ท่านกล่าวว่า  ปพฺพชิเตน   โข  อาวุโส  อภิรติ
ทุกฺกรา  ดูก่อนอาวุโสทั้งหลาย  ความยินดียิ่งอันบรรพชิตทำได้ยากดังนี้.  แต่
นั้นความหิวกระหายย่อมเบียดเบียน เพราะมีชีวิตเนื่องด้วยผู้อื่น  เพราะถูกความ
หิวกระหายเบียดเบียน   ความอยากในการแสวงหา   ย่อมทำให้จิตเหนื่อยหน่าย
เมื่อเป็นเช่นนั้น      ถีนมิทธะ   (ความง่วงเหงาหาวนอน)   ย่อมครอบงำผู้มีจิต
หน้า ๔๐๓