| ปจฺจุคจฺฉามิ คือ มุ่งหน้าไปเบื้องบน. มารนั้นไปด้วยเดชไม่ใช่ด้วยกาย |
| เพราะเหตุไร เพราะมารไม่ทำให้เราเคลื่อนจากที่ได้. ท่านอธิบายว่า มารอย่า |
| ทําให้เราเคลื่อนจากที่อปราชิตบัลลังก์นั้น. บทว่า นปฺปสหติ คือไม่สามารถ |
| อดกลั้นหรือครอบงำได้. บทว่า อามปกฺกํ ได้แก่ ภาชนะดินทั้งดิบทั้งสุก. |
| บทว่า อมฺหนา ได้แก่ ด้วยหิน. บทที่เหลือในสูตรนี้ปรากฏชัดแล้ว. |
| บัดนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าเมื่อจะทรงแสดงว่า ดูก่อนมาร เราจักทำลาย |
| เสนาของท่านนั้น ต่อจากนั้นเราเป็นผู้ชนะสงความแล้ว บรรลุธรรมราชาภิเษก |
| จักกระทำสัมมาสังกัปปะนี้ ดังนี้ จึงตรัสว่า วสึ กริตฺวา ทำสัมมาสังกัปปะให้ |
| ชำนาญดังนี้. |
| ในบทเหล่านั้น บทว่า วสึ กริตฺวา สงฺกปฺปํ ความว่า ละมิจฉา |
| สังกัปปะทั้งหมดด้วยมรรคภาวนา แล้วทำสังกัปปะให้ชํานาญโดยให้สัมมา- |
| สังกัปปะเท่านั้นเป็นไป. บทว่า สติญฺจ สุปติฏิตํ ดำรงสติให้ตั้งมั่นเป็น |
| อันดี ความว่า เราจักทำสติของตนในฐานะ ๔ มีกายเป็นต้นให้ตั้งมั่นด้วยดี |
| ทำสังกัปปะให้ชำนาญอย่างนี้แล้ว มีสติตั้งมั่นด้วยดีจักเที่ยวไปจากแคว้นนี้ไปยัง |
| แคว้นโน้น แนะนำสาวกเป็นอันมากทั้งที่เป็นเทวดาและมนุษย์ เมื่อเป็นเช่นนั้น |
| สาวกผู้ไม่ประมาทเหล่านั้นอันเราแนะนำแล้ว มีใจเด็ดเดี่ยวกระทำตามคำสั่ง |
| สอนของเรา จักถึงที่ซึ่งไม่มีความใคร่ ที่ชนทั้งหลายไปถึงแล้วย่อมไม่เศร้าโศก |
| อธิบายว่า ที่นั้นได้แก่อมตมหานิพพานนั้นเอง. |
| ลำดับนั้น มารกล่าวว่า ดูก่อนภิกษุ ท่านเห็นเราเป็นยักษ์ฉะนี้แล้ว ไม่ |
| กลัวดอกหรือ. พระผู้มืพระภาคเจ้าตรัสว่า เออ มารเราไม่กลัวดอก. มารทูล |