| สุภาษิตสูตรที่ ๓ |
| ว่าด้วยวาจาเป็นสุภาษิต |
| [๓๕๖] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้. |
| สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน |
| อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มี- |
| พระภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทูลรับ |
| พระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย |
| วาจาอันประกอบด้วยองค์ ๔ เป็นวาจาสุภาษิต ไม่เป็นทุพภาษิต เป็นวาจา |
| ไม่มีโทษ เเละวิญญูชนไม่พึงติเตียน องค์ ๔ เป็นไฉน. คือ ภิกษุในศาสนานี้ |
| ย่อมกล่าวแต่คำที่เป็นสุภาษิต ไม่กล่าวคำที่เป็นทุพภาษิต ๑ ย่อมกล่าวคำที่ |
| เป็นธรรม ไม่กล่าวคำที่ไม่เป็นธรรม ๑ ย่อมกล่าวแต่คำอันเป็นที่รัก ไม่กล่าว |
| คำอันไม่เป็นที่รัก ย่อมกล่าวแต่คำสัตย์ ไม่กล่าวคำเหลาะแหละ ๑ ดูก่อน |
| ภิกษุทั้งหลาย วาจาอันประกอบด้วยองค์ ๔ นี้แลเป็นวาจาสุภาษิต ไม่เป็น |
| ทุพภาษิต เป็นวาจาไม่มีโทษ และวิญญูชนไม่พึงติเตียน. |
| พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้สุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณภาษิตนี้จบลงแล้ว |
| จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า |
| สัตบุรุษทั้งหลาย ได้กล่าวคำอันเป็น |
| สุภาษิตว่าเป็นคำสูงสุด บุคคลพึงกล่าวแต่คำ |
| ที่เป็นธรรม ไม่พึงกล่าวคำที่ไม่เป็นธรรม |