๔๑๘    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๔๒๐
         บุรุษนั้นได้บรรลุปัจเจกโพธิญาณ     พร้อมกับบุตรทั้งหลาย.  อนึ่ง
ยังมีตัวอย่างผู้อื่นที่บรรลุอริยภูมิด้วยอุบายเช่นนี้อีก.     นั้นยังไม่น่าอัศจรรย์นัก
ภิกษุ  ๕๐๐  รูปฟังคาถาที่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ฉลาดในอาสยานุสยญาณ   (รู้
อัธยาศัยของสัตว์)  ตรัสไว้โดยนัยเป็นต้นว่า  สพฺเพ    สงฺขารา    อนิจฺจา
สังขารทั้งหลายทั้งปวงไม่เที่ยง  ดังนี้   ได้บรรลุพระอรหัต.  อนึ่ง  เทวดา
และมนุษย์เหล่าอื่นไม่น้อย  ฟังกถาภาษิตประกอบด้วยขันธ์และอายตนะเป็นต้น
ได้บรรลุพระอรหัต.
         วาจาประกอบด้วยองค์  ๔  เหล่านี้อย่างนี้   แม้หากว่าเป็นวาจาที่เนื่อง
ด้วยภาษาของพวกมิลักขะ   และเนื่องด้วยภาษาของหญิงรับใช้   และนักขับร้อง
พึงทราบว่าเป็นวาจาสุภาษิตเหมือนกัน.   เพราะเป็นวาจาสุภาษิตนั่นเอง  จึงเป็น
วาจาไม่มีโทษ   และวิญญูชน คือ  กุลบุตรผู้ต้องการประโยชน์   ยึดอรรถไม่ยึด
พยัญชนะไม่พึงติเตียน.
         บทว่า  อิทมโวจ  ภควา  คือ พระผู้มีพระภาคเจ้าครั้นตรัสลักษณะ
ของคำเป็นสุภาษิตนี้แล้ว.  บทว่า อิทํ  วตฺวาน สุคโต  อถาปรํ  เอตทโวจ
สตฺถา  พระสุคตผู้ศาสดาได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีก   ความว่า   พระสุคต
ตรัสลักษณะนี้แล้ว     พระศาสดาได้ตรัสอย่างอื่นต่อไปอีก.    พระสังคีติกาจารย์
ครั้นแสดงคาถาที่ควรกล่าวในบัดนี้แล้ว  จึงกล่าวบทนี้ทั้งหมด.
         ในบทเหล่านั้น  บทว่า อปรํ  ท่านกล่าวหมายถึงคำเป็นคาถาประพันธ์.
คาถาประพันธ์นั้นมีสองอย่าง     แสดงถึงประโยชน์อันหมายถึงคนที่มาภายหลัง
หรือการไม่ได้ฟัง  การได้ฟัง  การทรงจำและการทำให้มั่นเป็นต้น  และแสดงถึง
หน้า ๔๑๙