๔๓    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๔๕
องค์เป็นผู้สูงสุด   หรือเป็นผู้ควรสรรเสริญ   พระพุทธเจ้าพระองค์นั้นด้วย เป็น
ผู้ประเสริฐด้วย    เพราะเหตุนั้นจึงชื่อว่า   พุทธเสฏฺโ€   พระพุทธเจ้าผู้ประ-
เสริฐที่สุด,  อีกอย่างหนึ่ง  พระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ชื่อว่าประเสริฐที่สุดในบรรดา
พระพุทธเจ้าทั้งหลาย  คือ  พระอนุพุทธะ   และพระปัจเจกพุทธะ   เพราะเหตุ
นั้น  จึงชื่อว่า   พุทฺธเสฏฺโ€   พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐที่สุด,  พระพุทธเจ้าผู้
ประเสริฐที่สุดพระองค์นั้น   ย่อมยกย่องคือว่าย่อมสรรเสริญได้แก่ ย่อมประกาศ
ซึ่งพระธรรมใด     ในที่นั้น  ๆ  โดยนัยมีอาทิอย่างนี้ว่า    ก็ทางอันประกอบด้วย
องค์ ๘  เป็นทางเกษมกว่าทางทั้งหลาย    เพราะเป็นทางเพื่อบรรลุพระนิพพาน
และว่า    ภิกษุทั้งหลาย    เราจะแสดงสัมมาสมาธิ    ซึ่งเป็นอริยะ    ซึ่งมีทั้งเหตุ
มีทั้งบริขาร (เครื่องแวดล้อม)
         บทว่า   สุจึ   ได้แก่  ผ่องแผ้วที่สุด     เพราะกระทำการตัดมลทินคือ
กิเลส.
         บาทคาถาว่า  สมาธิมานนฺตริกญฺมาหุ  ความว่า  ก็บัณฑิตทั้งหลาย
กล่าวสมาธิใด   ที่ว่าเป็นสมาธิที่ให้ผลในลำดับ    เพราะให้ผลในลำดับแห่งการ
เป็นไปของตน  อย่างแน่นอนทีเดียว  ก็เมื่อมรรคสมาธิบังเกิดขึ้นแล้ว  ย่อมไม่มี
อันตรายไร ๆ   ที่จะห้ามความบังเกิดขึ้นแห่งผลของมรรคสมาธินั้นเหมือนอย่าง
ที่ท่านกล่าวไว้ว่า   ก็บุคคลนี้พึงปฏิบัติ  เพื่อการทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล  และ
พึงเป็นเวลาที่ไฟไหม้กัป     คือว่าบุคคลนี้ยังไม่ทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล
ตราบใดกัปก็ยังไม่ไหม้ตราบนั้น.    บุคคลนี้เราเรียกว่าฐิตกัปปี  ผู้มีกัปอันตั้ง
อยู่แล้ว   บุคคลผู้เป็นมรรคสมังคีแม้ทั้งหมด  ชื่อว่า  ฐิตกัปปี   (เหมือนกัน ).
บาลีว่า อุทยฺหนเวลา ของ ยุ. เป็น อุฑฺฑหนเวลา
หน้า ๔๔