| อยู่ในโสดาปัตติผลคู่ ๑ จนถึงบุคคลผู้ตั้งอยู่ในอรหัตตมรรคและตั้งอยู่ในอร- |
| หัตผลคู่ ๑. |
| คำว่า เต ในคำนี้ว่า เต ทกฺขิเณยฺยา เป็นการขยายความกำหนด |
| ถึงพระอริยบุคคลตามที่ท่านแสดงไม่กำหนดไว้ในต้อนต้น |
| บุคคลเหล่าใด ซึ่งท่านกล่าวได้โดยพิสดารว่ามี ๘ จำพวกหรือ ๑๐๘ |
| จำพวก แต่โดยสังเขปมี ๔ คู่ ดังนี้ พระอริยบุคคลเหล่านี้แม้ทั้งหมด. |
| พระอริยบุคคลทั้งหลายชื่อว่า ทกฺขิเณยฺยา เพราะอรรถวิเคราะห์ว่า |
| ย่อมควรซึ่งทักษิณา. ไทยธรรมที่บุคคลเชื่อกรรม และเชื่อผลของกรรมให้ |
| อยู่โดยไม่คำนึงถึงเหตุทั้งหลายมีอาทิอย่างนี้ว่า ท่านผู้นี้จักทำเวชกรรมนี้แก่เรา |
| จะทำการรับใช้เรา ดังนี้ ชื่อว่า ทักษิณา. บุคคลทั้งหลายผู้ประกอบด้วย |
| คุณมีศีลเป็นต้น ชื่อว่า ย่อมควรซึ่งทักษิณา ก็พระอริยบุคคลเหล่านี้เป็นเช่น |
| นั้น เพราะเหตุนั้น พระอริยบุคคลเหล่านั้นท่านจึงเรียกว่า ทักขิเณยยบุคคล. |
| สองบทว่า สุคตสฺส สาวกา ความว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระ- |
| นามว่า สุคโต เพราะพระองค์ประกอบด้วยการเสด็จไปที่งดงาม เพราะพระ- |
| องค์เสด็จถึงฐานะที่งาม เพราะพระองค์เสด็จไปดี และเพราะพระองค์เสด็จไป |
| ด้วยดีนั้นเอง บุคคลเหล่านั้นแม้ทั้งหมดย่อมฟัง (ซึ่งคำสอน) ของพระสุคตเจ้า |
| นั้น เพราะเหตุนั้น ชนเหล่านั้น จึงชื่อว่า สาวก (ผู้ฟังคำสอนของพระสุคต) |
| ก็คนแม้เหล่าอื่นย่อมฟังคำสอนของพระสุคตก็จริง แต่ว่าฟังแล้วหาได้ |
| กระทำกิจที่ตนจะพึงการทำไม่ แต่สาวกทั้งหลายเหล่านี้ ฟังแล้วกระทำตาม |