๕๔    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๕๖
บุคคลนี้ชื่อว่า  เอกพีชี   อนึ่งบุคคลใด    ท่องเที่ยวไปสู่สกุล ๒ หรือ ๓ สกุล
(เกิด ๒ หรือ ๓ ชาติ)  แล้วทำที่สุดแห่งทุกข์ได้   บุคคลนี้ชื่อว่า   โกลังโกละ
อนึ่งบุคคลใด ท่องเที่ยวไปในเทวโลกและมนุษยโลกสิ้น ๗ ครั้ง (ร่วมกัน) แล้ว
ทำที่สุดแห่งทุกข์ได้  บุคคลนี้ชื่อว่า สัตตักขัตตุปรมะ  เพื่อจะตรัสถึงคุณของ
พระโสดาบัน ผู้เป็นสัตตักขัตตุปรมะ อันเป็นผู้น้อยกว่าพระโสดาบัน ๓ จำพวก
นั้น   จึงทรงเริ่มว่า  เย  อริยสจฺจานิ  วิภาวยนฺติ  ดังนี้เป็นต้น
         บรรดาบทเหล่านั้น คำนี้ว่า  เย  อริยสจฺจานิ  มีนัยอันข้าพเจ้ากล่าว
แล้วนั้นแล
         บทว่า  วิภาวยนฺติ   ความว่า    กำจัดความมืดคือกิเลสที่ปกปิดสัจจะ
ด้วยโอภาส  คือ  ปัญญา  กระทําประกาศของตนให้ปรากฏ.
         บทว่า คมฺภีรปญฺเน ได้เเก่ ด้วยปัญญาที่ประดิษฐานไว้ อันบุคคล
ไม่พึงได้ด้วยญาณของโลก   แม้พร้อมทั้งเทวโลก    เพราะเหตุที่เป็นผู้มีปัญญา
ไม่อาจจะประมาณได้   มีคำอธิบายว่า  ด้วยสัพพัญญุตญาณ
         บทว่า  สุเทสิตานิ    ความว่า    อันพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงไว้
แล้วด้วยดี  ด้วยนัยทั้งหลายเหล่านั้น   ๆ  มีโดยย่อ   โดยพิสดาร  สากล   และ
โดยรวบรัด  เป็นต้น
         บาทคาถาว่า  กิญฺจาปิ เต โหนฺติ ภุสปฺปมตฺตา   ความว่า บุคคลทั้ง
หลายผู้มีอริยสัจอันทำให้แจ้งแล้วเหล่านั้น   แม้บางคราวถึงฐานะเป็นที่ตั้งความ
ประมาท   เช่นเมื่อเป็นเทวราชหรือพระเจ้าจักรพรรดิเป็นต้น     เป็นผู้ประมาท
อย่างยิ่งก็จริง   ถึงกระนั้นพระอริยบุคคลเหล่าใด    ดำรงอยู่แล้วด้วยการดับอภิ-
สังขารวิญญาณ ด้วยโสดาปัตติมรรคญาณ  จะพึงทํานามรูปให้เกิดขึ้นในสังสารวัฏ
หน้า ๕๕