บุคคลนี้ชื่อว่า เอกพีชี อนึ่งบุคคลใด ท่องเที่ยวไปสู่สกุล ๒ หรือ ๓ สกุล |
(เกิด ๒ หรือ ๓ ชาติ) แล้วทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ บุคคลนี้ชื่อว่า โกลังโกละ |
อนึ่งบุคคลใด ท่องเที่ยวไปในเทวโลกและมนุษยโลกสิ้น ๗ ครั้ง (ร่วมกัน) แล้ว |
ทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ บุคคลนี้ชื่อว่า สัตตักขัตตุปรมะ เพื่อจะตรัสถึงคุณของ |
พระโสดาบัน ผู้เป็นสัตตักขัตตุปรมะ อันเป็นผู้น้อยกว่าพระโสดาบัน ๓ จำพวก |
นั้น จึงทรงเริ่มว่า เย อริยสจฺจานิ วิภาวยนฺติ ดังนี้เป็นต้น |
บรรดาบทเหล่านั้น คำนี้ว่า เย อริยสจฺจานิ มีนัยอันข้าพเจ้ากล่าว |
แล้วนั้นแล |
บทว่า วิภาวยนฺติ ความว่า กำจัดความมืดคือกิเลสที่ปกปิดสัจจะ |
ด้วยโอภาส คือ ปัญญา กระทําประกาศของตนให้ปรากฏ. |
บทว่า คมฺภีรปญฺเน ได้เเก่ ด้วยปัญญาที่ประดิษฐานไว้ อันบุคคล |
ไม่พึงได้ด้วยญาณของโลก แม้พร้อมทั้งเทวโลก เพราะเหตุที่เป็นผู้มีปัญญา |
ไม่อาจจะประมาณได้ มีคำอธิบายว่า ด้วยสัพพัญญุตญาณ |
บทว่า สุเทสิตานิ ความว่า อันพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงไว้ |
แล้วด้วยดี ด้วยนัยทั้งหลายเหล่านั้น ๆ มีโดยย่อ โดยพิสดาร สากล และ |
โดยรวบรัด เป็นต้น |
บาทคาถาว่า กิญฺจาปิ เต โหนฺติ ภุสปฺปมตฺตา ความว่า บุคคลทั้ง |
หลายผู้มีอริยสัจอันทำให้แจ้งแล้วเหล่านั้น แม้บางคราวถึงฐานะเป็นที่ตั้งความ |
ประมาท เช่นเมื่อเป็นเทวราชหรือพระเจ้าจักรพรรดิเป็นต้น เป็นผู้ประมาท |
อย่างยิ่งก็จริง ถึงกระนั้นพระอริยบุคคลเหล่าใด ดำรงอยู่แล้วด้วยการดับอภิ- |
สังขารวิญญาณ ด้วยโสดาปัตติมรรคญาณ จะพึงทํานามรูปให้เกิดขึ้นในสังสารวัฏ |