๖๒    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๖๔
         เนื้อความแห่งพระคาถานั้น       ผู้ศึกษาพึงทราบโดยนัยที่กล่าวแล้วใน
ตอนต้นนั้นเอง อาชญาแห่งคาถาแม้นี้  อันอมนุษย์ทั้งหลายในแสนโกฏิจักรวาล
รับแล้ว.
         พระผู้มีพระภาคเจ้า   ครั้นทรงแสดงสัจจะอันเป็นสังฆาธิษฐาน    แห่ง
บุคคลทั้งหลายผู้นับเนื่องในพระสงฆ์   ด้วยการประกาศคุณนั้น ๆ  อย่างนี้แล้ว
บัดนี้  ทรงอาศัยแม้พระปริยัติธรรม   ที่พระองค์เมื่อทรงแสดงคุณของพระรัตน-
ตรัยได้ทรงแสดงไว้    โดยสังเขปในที่นี้และโดยพิสดารในที่อื่น    เมื่อจะกล่าว
สัจจะอันเป็นพุทธาธิษฐาน    มีพระพุทธเจ้าเป็นที่ตั้ง   อาศัยปริยัติธรรมเเม้นั้น
จึงทรงเริ่มอีกว่า   วนปฺปคุมฺเพ  ยถา  ผุสฺสิตคฺเค  เป็นต้น
         พึงทราบวินิจฉัยในคาถานั้น   ดังต่อไปนี้ :-
         หมู่แห่งไม้ทั้งหลาย  ซึ่งตั้งอยู่แล้ว  คือตั้งขึ้นแล้ว  ด้วยการขึ้นหนาแน่น
ชื่อว่า  วนํ ป่า.
         พุ่มไม้ ซึ่งเจริญแล้วด้วยราก  แก่น  กระพี้   เปลือก กิ่งและใบทั้งหลาย
ชื่อว่า  ปคุมโพ  พุ่มไม้.
         พุ่มไม้ในป่าชื่อว่า    วนปฺปคุมโพ     พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสคำว่า
วนปฺปคุมโพ  นี้นั้น. (เป็นสัตตมีวิภัตติ)  ว่า  วนปฺปคุมเพ  ก็แม้เมื่อเป็น
อย่างนี้   ใคร ๆ ก็อาจจะกล่าวได้ว่า    วนสณฺโฑ    (ชัฎแห่งป่า)   ไพรสณฑ์
เหมือนอย่างคำทั้งหลายมีคำเป็นต้นว่า  อตฺถิ   สวิตกฺกสวิจาเร  อตฺถิ   อวิ-
ตกฺกอวจารมตฺเต  สุเข  ทุกฺเข    ชีเว  ดังนี้.
         คำว่า    ยถา    เป็นคำอุปมา   ยอดของต้นไม้นั้นบานแล้ว  เหตุนั้น
ต้นไม้นั้น    ชื่อว่า    ผุสิตคฺเค  มียอดบานแล้ว   อธิบายว่า  มีดอกเกิดแล้ว
ที่กิ่งน้อยกิ่งใหญ่ทุกกิ่ง.
หน้า ๖๓