ก็ในคำว่า ปรมํ หิตาย นี้ เป็นอนุนาสิก (นิคคหิต ออกเสียงขึ้น |
จมูก) พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ เพื่อสะดวกในการประพันธ์คาถา แต่เนื้อ |
ความมีดังนี้ว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงแสดง (ธรรมอันประเสริฐ) เพื่อพระ |
นิพพานอันมีประโยชน์เกื้อกูลอย่างยิ่ง ดังนี้. |
พระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นทรงแสดงพระปริยัติธรรมอันเช่นกับพุ่มไม้ |
ในป่าที่มียอดคือดอกบานสะพรั่งนี้อย่างนี้แล้ว บัดนี้ทรงอาศัยคุณข้อนั้นนั่นเอง |
ทรงประกอบสัจวาจาเป็นพุทธาธิษฐานว่า อิทมฺปิ พุทฺเธ รตนํ ปณีตํ |
เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ. |
เนื้อความแห่งพระคาถานั้น พึงทราบโดยนัยที่กล่าวไว้แล้วในตอนต้น |
แต่ก็พึงประกอบบทอย่างเดียว อย่างนี้ว่า พุทธรัตนะกล่าวคือ พระปริยัติ- |
ธรรม มีประการตามที่กล่าวแล้วแม้นั้น เป็นรัตนะอันประณีต อาชญาแห่ง |
คาถาแม้นี้ อันอมนุษย์ทั้งหลายในแสนโกฏิจักรวาลรับแล้ว. |
พระผู้มีพระภาคเจ้าครั้นตรัสสัจจะเป็นพุทธาธิษฐานด้วยอำนาจพระ |
ปริยัติธรรมอย่างนี้แล้ว บัดนี้เพื่อจะตรัสด้วยโลกุตรธรรมจึงทรงเริ่มว่า วโร |
วรญฺญู วรโท วราหโร ดังนี้เป็นต้น. |
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า วโร ความว่า ผู้อันชนทั้งหลาย |
ผู้มีอธิมุตติอันประณีต ปรารถนาแล้วว่า โอ ! หนอ แม้พวกเราพึงเป็นเช่นนี้ |
อีกอย่างหนึ่ง ที่ชื่อว่า วโร ประเสริฐ เพราะประกอบด้วยคุณที่ประเสริฐ |
อธิบายว่า เป็นผู้สูงสุด คือประเสริฐที่สุด. |