๗๐    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๗๒
กล่าวคือพระนิพพานของภิกษุขีณาสพทั้งหลาย     โดยประการตามที่เรากล่าวไว้
แล้วแม้นี้   เป็นรัตนะอันประณีต  อาชญาแห่งคาถาแม้นี้    อันอมนุษย์ทั้งหลาย
ในแสนโกฏิจักรวาลรับแล้ว.
         ในที่สุดแห่งพระเทศนา    ความสวัสดีได้มีแก่ราชสกุลแล้ว     อุปัทวะ
ทั้งปวงสงบแล้ว   สัตว์   ๘๔,๐๐๐  ได้บรรลุธรรม.
         ครั้งนั้น   ท้าวสักกะจอมเทพทรงดำริว่า  พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอาศัย
คุณพระรัตนตรัยประกอบสัจวาจา     ทำความสวัสดีแก่ชาวพระนครแล้ว     แม้
เราเองก็จะพึงอาลัยคุณพระรัตนตรัย   กล่าวบางสิ่งบางอย่าง  เพื่อความสวัสดีแก่
ชาวพระนคร  จึงได้ตรัส  ๓ คาถาสุดท้ายว่า
                ยานีธ  ภูตานิ  สมาคตานิ
                ภุมฺมานิ  วา  ยานิ  ว  อนฺตลิกฺเข
                ตถาคตํ  เทวมนุสฺสปูชิตํ
                พุทฺธํ  นมสฺสาม  สุวตฺถิ  โหตุ   ดังนี้เป็นต้น.
         พึงทราบวินิจฉัย  ในพระคาถาทั้ง ๓ นั้น   ดังต่อไปนี้ :-
         เพราะเหตุที่พระพุทธเจ้า   ได้รับขนานนามว่า  พระตถาคต   ก็เพราะ
พระองค์ทรงถึงประโยชน์เหมือนอย่างบุคคลทั้งหลายผู้ขวนขวาย เพื่อประโยชน์
สุขแก่ชาวโลกจะพึงถึง  เพราะพระองค์เสด็จไปโดยประการที่ชาวโลกผู้ขวนขวาย
เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่โลกเหล่านี้จะพึงไป    เพราะพระองค์ทรงทราบถึงสิ่งที่
ชาวโลกผู้ขวนขวาย    เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่โลกเหล่านี้จะพึงทราบ    เพราะ
พระองค์ทรงรู้โดยประการที่ชนเหล่านี้จะพึงรู้และเพราะพระองค์เสด็จไปอย่างนี้
หน้า ๗๑