๗๕    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๗๗
นั้นแล้ว   ไหว้อำลามารดาบิดา   ไปสู่เมืองพาราณสีโดยลำดับ  เข้าไปหาอาจารย์
ด้วยวิธีประกอบด้วยมารยาทเรียบร้อย  ไหว้แล้ว  แนะนำตน   อาจารย์ทราบว่า
เด็กหนุ่มนี้เป็นบุตรเพื่อนของเรา    จึงรับมาณพ   (นั้น )   แล้วได้กระทำการ
ต้อนรับทุกอย่าง.
         มาณพนั้นบรรเทาความเมื่อยล้าจากการเดินทางไกล    (พักผ่อน)  แล้ว
ได้มอบทรัพย์ ๑ พันกหาปณะนั้นไว้ที่ใกล้เท้าอาจารย์  ขอโอกาสเรียนศิลปวิทยา
อาจารย์ให้โอกาสแล้วก็ให้ศึกษา   มาณพนั้นเรียนได้ไวด้วย   เรียนได้มากด้วย
และจดจำสิ่งที่เรียนไว้แล้ว  ๆ ไม่ลืม  เหมือนน้ำมันที่ใส่ไว้ในภาชนะทองฉะนั้น
ได้เรียนศิลปวิทยา  ซึ่งคนทั่วไปใช้เวลาเรียน  ๑๒  ปี (โดยใช้เวลาเรียน)  เพียง
๒-๓  เดือนเท่านั้น      เขาเมื่อจะกระทำการสาธยาย     ย่อมเห็นเบื้องต้น    และ
ท่ามกลางของศิลปะนั้นได้    แต่ไม่เห็นที่สุด.   ครั้งนั้นเขาจึงเข้าไปหาอาจารย์
แล้วเรียนว่า   กระผมย่อมเห็นเบื้องต้นและท่ามกลางเท่านั้นของศิลปะนั้น    แต่
ไม่เห็นที่สุด.    อาจารย์กล่าวว่า    ดูก่อนพ่อ    แม้เราเองก็ไม่เห็นเหมือนกัน.
มาณพจึงเรียนถามว่า  ข้าแต่ท่านอาจารย์  เมื่อเป็นเช่นนั้น   ใครเล่าย่อมทราบ
ที่สุดเเห่งศิลปะนี้ได้. อาจารย์ตอบว่า  ดูก่อนพ่อ    ที่ป่าอิสิปตนะมีฤาษีทั้งหลาย
อยู่   ฤาษีเหล่านั้นพึงทราบได้.   มาณพกล่าวว่า    ท่านอาจารย์กระผมเข้าไปหา
ฤาษีเหล่านั้นแล้วจักไต่ถาม.    อาจารย์ตอบว่า     เจ้าจงถามตามสบายเถิดพ่อ.
มาณพนั้นไปยังป่าอิสิปตนะ    เข้าไปหาพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายแล้ว   เรียน
ถามว่า  ท่านทั้งหลายทราบเบื้องต้น   ท่ามกลางและที่สุด   (ของศิลปะ)   หรือ.
พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายตอบว่า   ดูก่อนอาวุโส    ใช่แล้ว     พวกเราทราบ.
หน้า ๗๖