๗๖    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๗๘
มาณพเรียนว่า ท่านทั้งหลายจะให้กระผมศึกษาบ้างได้ไหม  พระปัจเจกพุทธเจ้า.
ทั้งหลายตอบว่า  อาวุโส   ถ้าอย่างนั้นเจ้าจงบวช  (เสียก่อน)  ด้วยว่าผู้ที่ไม่บวช
ไม่อาจศึกษาได้.   มาณพเรียนว่า  ข้าแต่ท่านผู้เจริญ   ดีละ  ท่านทั้งหลายจงให้
กระผมบวช  ท่านทั้งหลายกระทำสิ่งที่ท่านทั้งหลายปรารถนาแล้ว   จงให้กระผม
ทราบที่สุดแห่งศิลปะเถิด.
         พระปัจเจกพุทธเจ้าเหล่านั้นให้มาณพนั้นบวชแล้ว     ก็ไม่สามารถที่จะ
สั่งสอน  ในกัมมัฏฐานได้   พระปัจเจกพุทธเจ้าเหล่านั้น    ให้ศึกษาอภิสมาจาริก-
วัตร  โดยนัยเป็นต้นว่า    ท่านพึงนุ่งอย่างนี้    ท่านพึงห่มอย่างนี้     ก็สุสิมะนั้น
ศึกษาอยู่ที่ป่าอิสิปตนะนั้น     ได้บรรลุปัจเจกโพธิญาณโดยไม่นานเลย    เพราะ
(ความที่ตน)  สมบูรณ์ด้วยอุปนิสัย  ท่านจึงได้ปรากฏในเมืองพาราณสีทั้งสิ้นว่า
พระปัจเจกพุทธเจ้าสุสิมะเกิดขึ้นแล้ว     ท่านถึงความเลิศด้วยลาภ    เลิศด้วยยศ
มีบริวารพรั่งพร้อม    พระปัจเจกพุทธเจ้าสุสิมะนั้น     ไม่นานเลยก็ปรินิพพาน
เพราะท่านได้ทำกรรมที่เป็นเหตุให้มีอายุน้อยไว้.   พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย
และหมู่มหาชนกระทำซึ่งสรีรกิจของพระปัจเจกพุทธเจ้าสุสิมะนั้น      ถือเอาแล้ว
ซึ่งพระธาตุทั้งหลายให้ประดิษฐานไว้ในพระสถูปที่ประตูพระนคร.
         ครั้งนั้นแล  สังขพราหมณ์คิดว่า  บุตรของเราไปนานแล้ว   และเราก็
ไม่ทราบความเป็นไปของบุตรนั้น    ดังนี้.    ต้องการที่จะพบบุตร   จึงออกจาก
เมืองตักกสิลา    ไปถึงเมืองพาราณสีโดยลำดับ    เห็นหมู่มหาชนประชุมกันอยู่
จึงดำริว่า  ในบรรดาหมู่ชนเป็นอันมาก  คงจะมีใครสักคนหนึ่งทราบความเป็นไป
แห่งบุตรของเราบ้างเป็นแน่   ดังนี้แล้ว    จึงเข้าไปในที่นั้นถามว่า     เด็กหนุ่ม
ชื่อว่าสุสิมะมาในที่นี้มีอยู่     พวกท่านทราบความเป็นไปของเขาบ้างแหละหรือ
หน้า ๗๗