๗๗    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๗๙
มหาชนตอบว่า  ใช่แล้วพราหมณ์  เราทั้งหลายทราบอยู่  สุสิมะมาณพเป็นผู้จบ
ไตรเพทในสำนักของพราหมณ์ในนครนี้. บวชในสำนักของพระปัจเจกพุทธเจ้า
ทั้งหลาย  แล้วสำเร็จเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าปรินิพพานแล้วด้วยอนุปาทิเสส-
นิพพานธาตุ   สถูปองค์นี้   มหาชนให้สร้างประดิษฐานไว้เพื่อสุสิมะปัจเจกพุทธ-
เจ้าพระองค์นั้น.
         สังขพราหมณ์นั้นใช้มือทุบแผ่นดินร้องไห้คร่ำครวญ   ไปยังลานเจดีย์
นั้น     ถอนหญ้าทั้งหลายขึ้นแล้ว  ใช้ผ้าห่ม    (ห่อ)   ขนทรายมา  แล้วเกลี่ยลงที่
ลานพระเจดีย์ของพระปัจเจกพุทธเจ้า  ประพรมด้วยน้ำ   จากคณโฑ  (ลักจั่น)
กระทำบูชาด้วยดอกไม้ป่าทั้งหลาย  ใช้ผ้าห่มยกทำเป็นธงปฏากขึ้น ผูกร่มของตน
ไว้เบื้องบนสถูป   แล้วหลีกไป.
         ครั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงนำอดีตนิทานมาอย่างนี้แล้วเมื่อทรงสืบต่อ
อนุสนธิชาดกนั้น   ให้เชื่อมกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน  จึงตรัสธรรมกถาแก่ภิกษุ
ทั้งหลายว่า    ภิกษุทั้งหลาย    ท่านทั้งหลายไม่พึงเห็นข้อนั้นอย่างนี้ว่า  คนอื่น
จะพึงมีได้แล    สังขพราหมณ์ได้มีแล้วในสมัยนั้นแน่แท้    เราเองได้เป็นสังข-
พราหมณ์โดยสมัยนั้น    เราได้ถอนหญ้าที่ลานพระเจดีย์ของพระปัจเจกพุทธเจ้า
ชื่อว่าสุสิมะ    ด้วยผลที่ไหลออกแห่งกรรมของเรานั้น     ชนทั้งหลายได้กระทำ
หนทางประมาณ  ๘  โยชน์  ให้ปราศจากตอและหนาม แล้วกระทำพื้นที่ให้เสมอ
สะอาด   เราได้เกลี่ยทรายลงที่ลานพระเจดีย์นั้น     ด้วยผลที่ไหลออกแห่งกรรม
ของเรานั้น     ชนทั้งหลายได้เกลี่ยทรายในหนทางประมาณ  ๘  โยชน์  เราได้ทำ
การบูชาด้วยดอกไม้ป่าที่พระเจดีย์ของพระปัจเจกพุทธเจ้านั้น   ด้วยผลที่ไหลออก
แห่งกรรมของเรานั้น   ชนทั้งหลายได้ทำการลาดดอกไม้  ด้วยดอกไม้นานาชนิด
หน้า ๗๘