๘๗    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๘๙
ได้นั่งอยู่  ณ  ส่วนข้างหนึ่ง  พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสปราศรัยแสดงความชื่นชม
กับดาบสเหล่านั้น   โดยนัยว่า    ท่านฤาษีทั้งหลาย    ท่านทั้งหลายพออดทนได้
ละหรือ  ดังนี้เป็นต้น. แม้ดาบสเหล่านั้นก็ได้กราบทูลว่า  ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ
ข้าพระองค์ทั้งหลายพออดทนได้   ดังนี้เป็นต้น.    ลำดับนั้นอามคันธฤาษี  ได้
ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า    ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ    พระองค์เสวยกลิ่นดิบ
หรือไม่เสวย.  พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามว่า  พราหมณ์  ชื่อว่ากลิ่นดิบนั้นคือ
อะไร ?  ดาบสนั้นทูลว่า   ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ   ปลาและเนื้อชื่อว่ากลิ่นดิบ.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า  ดูก่อนพราหมณ์   ปลาและเนื้อไม่ใช่กลิ่นดิบ   ก็แล
กิเลสทั้งปวงที่เป็นบาป   เป็นอกุศลธรรม   ชื่อว่ากลิ่นดิบ   แล้วตรัสว่า   ดูก่อน
พราหมณ์      ตัวท่านเองได้ถามถึงกลิ่นดิบในกาลบัดนี้ก็หามิได้     แม้ในอดีต
พราหมณ์ชื่อว่าติสสะก็ได้ถามถึงกลิ่นดิบกะพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่ากัสสปะ
แล้ว ก็ติสสพราหมณ์ได้ทูลถามแล้วอย่างนี้     พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงพยากรณ์
แล้วอย่างนี้  ดังนี้    แล้วได้ทรงนำมาซึ่งพระคาถาที่ติสสพราหมณ์   และพระผู้มี
พระภาคเจ้ากัสสปะตรัสแล้วนั้นแล  เมื่อจะให้อามคันธพราหรมณ์ทราบด้วยคาถา
เหล่านี้   จะตรัสว่า   สามากจิงฺคูลกจีนกานิ  จ   ดังนี้เป็นต้น.   นี่คือเหตุเกิด
ขึ้นแห่งพระสูตรนี้   ในที่นี้เพียงเท่านี้ก่อน   แต่ในอดีตกาลมีเหตุเกิดขึ้นดังต่อไปนี้.
         ได้ยินว่า  พระโพธิสัตว์พระนามว่ากัสสปะ   บำเพ็ญบารมี  ๘ อสงไขย
กับแสนกัป   ได้ถือปฏิสนธิในครรภ์ของนางพราหมณีชื่อว่า  ธนวดี  ปชาบดีของ
พรหมทัตตพราหมณ์ในเมืองพาราณสี   แม้อัครสาวกก็เคลื่อนจากเทวโลกในวัน
นั้นเหมือนกัน  อุบัติในครรภ์ของปชาบดีของพราหมณ์ผู้เป็นอนุปุโรหิต    การถือ
หน้า ๘๘