๙๖    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๙๘
         บาทพระคาถาว่า  เอสามคนฺโธ  น  หิ  มํสโภชนํ  ความว่า  ความ
ประพฤติด้วยอำนาจอกุศลธรรม   มีปาณาติบาตเป็นต้นนี้   ชื่อว่า  อามคันธะ
กลิ่นดิบ คือ เป็นกลิ่นทีมีพิษ  เป็นกลิ่นดุจซากศพ.  ถามว่า  เพราะเหตุไร  ?
         ตอบว่า  เพราะไม่เป็นที่พอใจ   เพราะคลุกเคล้าด้วยของไม่สะอาดคือ
กิเลส   เพราะเป็นของที่สัปบุรุษทั้งหลายเกลียด    และเพราะนำมาซึ่งความเป็น
กลิ่นที่เหม็นอย่างยิ่ง.
         สัตว์ทั้งหลายเหล่าใด    ซึ่งมีกิเลสอันบังเกิดขึ้นแล้ว      ด้วยกลิ่นดิบ
ทั้งหลายเหล่าใด    สัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น     ชื่อว่าเป็นผู้มีกลิ่นเหม็นอย่างยิ่งกว่า
กลิ่นดิบทั้งหลายเหล่านั้น       แม้ร่างที่ตายแล้วของคนที่หมดกิเลสทั้งหลาย  ก็ยัง
ไม่จัดว่ามีกลิ่นเหม็น  เพราะฉะนั้น   กลิ่นนี้  (คือการฆ่าสัตว์เป็นต้น )   จึงเป็น
กลิ่นดิบ  ส่วนเนื้อและโภชนะที่ผู้บริโภคไม่ได้เห็น  ไม่ได้ยิน  และไม่ได้รังเกียจ
(คือไม่สงสัยว่าเขาฆ่าเพื่อตน)   จัดเป็นสิ่งหาโทษมิได้   เพราะฉะนั้น     เนื้อและ
โภชนะจึงไม่ใช่กลิ่นดิบเลย.
         พระผู้มีพระภาคเจ้าครั้นทรงวิสัชนากลิ่นดิบโดยนัยหนึ่ง    ด้วยเทศนา
ที่เป็นธรรมาธิษฐานอย่างนี้แล้ว   บัดนี้  เพราะเหตุที่สัตว์เหล่านั้น  ๆ ประกอบ
ด้วยกลิ่นดิบทั้งหลายเหล่านั้น  ๆ   สัตว์ผู้หนึ่งเท่านั้น    จะประกอบด้วยกลิ่นดิบ
ทุกอย่างก็หามิได้  และกลิ่นดิบทุกอย่าง  จะประกอบกับสัตว์ผู้เดียวเท่านั้น    ก็หา
มิได้   ฉะนั้นเมื่อจะทรงประกาศกลิ่นดิบเหล่านั้น   ๆ  แก่สัตว์เหล่านั้น     เมื่อจะ
ทรงวิสัชนากลิ่นดิบด้วยเทศนาที่เป็นบุคคลธิษฐานก่อนโดยนัยว่า  ชนทั้งหลาย
เหล่าใดในโลกนี้   ไม่สำรวมแล้วในกามทั้งหลาย   ดังนี้เป็นต้น   จึงได้ทรงภาษิต
พระคาถา  ๒  พระคาถา.
หน้า ๙๗