ศีล ปัญญาและสุตะ มีในตน ผู้นั้นย่อม |
ประพฤติประโยชน์แก่คนทั้ง ๒ ฝ่าย คือทั้ง |
แก่ตนเองและผู้อื่น. เพราะฉะนั้น ธีรชนควร |
ชั่งใจดูตัวเองเหมือนชั่งใจดูศีล ปัญญาและ |
สุตะฉะนั้นแล้ว จึงบริหารหมู่คณะบ้าง อยู่คน |
เดียวเว้นการบริหารบ้าง. |
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ลหุจิตฺตสฺส ความว่า พึงเป็นผู้มี |
ใจเบา มีคำอธิบายว่า คนใดคล้อยตาม คืออนุวัตรตามมิตรหรือญาติ |
ผู้ใจเบา เมื่อคนนั้นคล้อยตาม เขาก็จะเป็นหัวหน้าใจเบา ทำหน้าที่ |
ของผู้จองเวร. บทว่า เอกสฺส กปิโน ความว่า สูเจ้าทั้งหลายจงดู |
เถิด เพราะเหตุกระบี่ใจเบาคือเป็นอันธพาลตัวเดียว เขาได้ทำความย่อย- |
ยับ คือความไม่เจริญ ได้แก่ความพินาศใหญ่หลวงนี้ให้แก่กระบี่สิ้นทั้ง |
ฝูง. บทว่า ปณฺฑิตมานี มีเนื้อความว่า ผู้ใดรู้ตนเองเป็นคนโง่ แต่ |
สำคัญตนว่า เราเป็นผู้ฉลาด ไม่ทำตามโอวาทของท่านผู้ฉลาด ตกอยู่ |
ในอำนาจความคิดของตน ผู้นั้นจะลุอำนาจความคิดของตนแล้ว คงนอน |
เหมือนกะบี่หัวดื้อตัวนี้แหละนอนตายอยู่. บทว่า น สาธุ ความว่า |
ธรรมดาคนโง่ แต่มีกำลังพร้อมบริหารหมู่คณะ ย่อมไม่ดี คือไม่ปลอด- |
ภัย เพราะเหตุไร เพราะเขาไม่มีประโยชน์สำหรับเหล่าญาติ คือนำ |