๓๒๐    ๕๙.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕    ๓๒๒
ส่งเภสัชทั้ง  ๕ ไปถวายพระเถระ.  ท่านแจกจ่ายเภสัชเหล่านั้นแด่บริษัท
แต่บริษัทของท่านมีมาก   พวกเขาเก็บของที่ได้  ๆ   มาไว้เต็มกระถางบ้าง
หม้อบ้าง   ถลกบาตรบ้าง.   คนทั้งหลายเห็นเข้าพากันยกโทษว่า    สมณะ
เหล่านี้มักมาก   เป็นผู้รักษาคลังภายใน.   พระศาสดาทรงสดับความเป็น
ไปนั้นแล้ว   จึงทรงบัญญัติสิกขาบทว่า   ก็แลเภสัชที่เป็นของควรลิ้มของ
ภิกษุผู้เป็นไข้เหล่านั้นใดดังนี้เป็นต้น      ตรัสว่า     ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
บัณฑิตสมัยก่อน  เมื่อพระพุทธเจ้ายังไม่เสด็จอุบัติ  บวชเป็นนักบวชใน
ลัทธิภายนอก แม้รักษาเพียงศีล ๕ ก็ไม่เก็บก้อนเกลือไว้ เพื่อประโยชน์
ในวันรุ่งขึ้น    ส่วนเธอทั้งหลายบวชในศาสนา    ที่นำออกจากทุกข์เห็น
ปานนี้   เมื่อพากันทำการสะสมอาหารไว้  เพื่อประโยชน์แก่วันที่ ๒  วัน
ที่  ๓   ชื่อว่าทำสิ่งที่ไม่สมควร       แล้วทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก
ดังต่อไปนี้ :-
         ในอดีตกาล      พระโพธิสัตว์ทรงเป็นโอรสของพระเจ้าคันธาระ
ในคันธารรัฐ   เสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ   โดยพระราชบิดาทิวงคตแล้ว
ทรงครองราชย์โดยธรรม.   แม้ในมัชฌิมประเทศ   พระเจ้าวิเทหะก็ทรง
ครองราชย์ในวิเทหรัฐ.   พระราชาทั้ง  ๒  พระองค์นั้น    ทรงเป็นพระ-
สหายที่ไม่เคยเห็นกัน   แต่ก็ทรงมีความคุ้นเคยกันอย่างมั่นคง.  คนสมัย
นั้นมีอายุยืนดำรงชีวิตอยู่ได้ถึง ๓ แสนปีดังนั้นในวันอุโบสถกลางเดือน
พระจ้าคันธาระก็ทรงสมาทานศีลเป็นครั้งคราว  แล้วเสด็จไปประทับบน
พระบวรบัลลังก์ภายในชั้นที่โอ่โถง  ทรงตรวจดูโลกธาตุด้านทิศตะวันออก
หน้า ๓๒๑