๓๒๓    ๕๙.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕    ๓๒๕
         วิเทหดาบสถามว่า  ข้าแต่ท่านอาจารย์  ท่านเป็นพระเจ้าคันธาระ
หรือ ?     คันธารดาบส   ถูกแล้วผมเป็นพระเจ้าคันธาระ.
         วิ.   ข้าแต่ท่านอาจารย์     กระผมเองก็ชื่อว่าพระเจ้าวิเทหะ    ใน
มิถิลนครในวิเทหรัฐ  พวกเราเป็นสหายที่ยังไม่เคยเห็นกันมิใช่หรือ ?
         คัน.   ก็ท่านมีอะไรเป็นอารมณ์  จึงออกบวช ?
         วิ.  กระผมได้ทราบว่าท่านบวชแล้ว   คิดว่า   ท่านคงได้เห็นคุณ
มหันต์ของการบวชแน่นอน   จึงทำท่านนั่นแหละให้เป็นอารมณ์  แล้ว
สละราชสมบัติออกบวช.
         ตั้งแต่นั้นมาดาบสทั้ง  ๒  นั้น    สมัครสมานกันชื่นชมกันเหลือ
เกิน   เป็นผู้มีผลไม้เท่าที่หาได้เป็นโภชนาหาร   ท่องเที่ยวไป.     ก็แหละ
ทั้ง ๒ ท่านอยู่ด้วยกัน  ณ ที่นั้นมาเป็นเวลานาน  จึงพากันลงมาจากป่า
หิมพานต์    เพื่อต้องการลิ้มรสเค็มรสเปรี้ยว    ลุถึงชายแดนตำบลหนึ่ง
คนที่ทำลายเลื่อมใสในอิริยาบถของท่าน      ถวายภิกษารับปฏิญญาแล้ว
พากันสร้างที่พักกลางคืนเป็นต้นให้ท่านอยู่ในป่า     แม้ในระหว่างทางก็
พากันสร้างบรรณศาลาไว้ในที่ ๆ มีน้ำสะดวกเพื่อต้องการให้ท่านทำภัตกิจ
ท่านพากันเที่ยวภิกขาจารที่บ้านชายแดนนั้นแล้ว    นั่งฉันที่บรรณศาลา
หลังนั้นแล้ว       จึงไปที่อยู่ของตน.      คนแม้เหล่านั้นเมื่อถวายอาหาร
ท่าน    บางครั้งก็ถวายเกลือใส่ลงในบาตร     บางคราวก็ห่อใบตองถวาย
บางคราวก็ถวายอาหารที่มีรสไม่เค็มเลย.    วันหนึ่งพวกเขาได้ถวายเกลือ
หน้า ๓๒๔