วิเทหดาบสฟังถ้อยคำของพระโพธิสัตว์นั้นแล้ว กล่าวว่า ข้าแต่ |
ท่านอาจารย์ บุคคลแม้เมื่อกล่าวถ้อยคำที่อิงประโยชน์ ก็ไม่ควรกล่าว |
กระทบเสียดแทงผู้อื่น ท่านกล่าวคำหยาบคายมาก เหมือนโกนผม |
ด้วยมีดโกนไม่คม แล้วจึงกล่าวคาถาที่ ๔ ว่า :- |
คนอื่นได้รับความแค้นเคือง เพราะคำพูด |
อย่างใดอย่างหนึ่ง ถึงแม้ว่าคำนั้นจะมีประโยชน์ |
มาก บัณฑิตก็ไม่ควรพูด. |
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า เยนเกนจิ ความว่า ด้วยเหตุ แม้ |
ประกอบด้วยธรรม. บทว่า ลภติ รุปฺปนํ ความว่า ได้รับความกระทบ |
กระทั่ง ความแค้นเคืองคือความเดือดดาล. บทว่า นตํ ภาเสยฺย มี |
เนื้อความว่า เพราะฉะนั้น บุคคลไม่ควรกล่าววาจาที่เป็นเหตุให้ |
ประทุษร้ายบุคคลอื่นนั้นที่มีประโยชน์มาก คือแม้ที่อิงอาศัยประโยชน์ |
ตั้งมากมาย. |
ลำดันนั้น พระโพธิสัตว์จึงกล่าวคาถาที่ ๕ แก่วิเทหดาบสนั้น |
ว่า :- |
ผู้ถูกตักเตือน จะแค้นเคืองหรือไม่แค้น |
เคืองก็ตามเถิด หรือจะเขี่ยทิ้งเหมือนโปรย |
แกลบทิ้งก็ตาม เมื่อเรากล่าวคำเป็นธรรมอยู่ |
ขึ้นชื่อว่าบาป ย่อมไม่เปรอะเปื้อนเรา. |