๓๓๗    ๕๙.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕    ๓๓๙
ทรงบรรทมพลางดำริว่า  วานรตัวนี้เป็นสัตว์เดียรฉาน  ได้ทำความสวัสดี
แก่บริษัททีเดียว  โดยมิได้คำนึงถึงชีวิตของตน.    เมื่อสว่างแล้วพระองค์
ทรงพอพระทัยต่อพระมหาสัตว์     ทรงดำริว่า   เราไม่ควรให้ขุนกระบี่นี้
พินาศไป   เราจักให้เอาขุนกระบี่นั้นลงมาปฏิบัติรักษา    แล้วได้รับสั่งให้
จอดเรือขนานไว้ภายในแม่น้ำคงคา  ทรงให้ผูกกรงไว้บนนั้นแล้วให้ค่อย
ยกขุนกระบี่ลงมา  แล้วรับสั่งให้คลุมผ้ากาสาวพัสตร์บนหลัง    ให้อาบน้ำ
ในแม่น้ำคงคา  ให้ดื่มน้ำอ้อย   ให้เอาน้ำมันที่เจียวแล้วพันครั้ง   ชะโลม
บนหลัง   ให้ปูหนังแพะบนที่นอนแล้ว.   ทรงให้ขุนกระบี่นั้นนอนบนที่
นอนนั้น  พระองค์เองประทับนั่งบนอาสนะต่ำ  ได้ตรัสคาถาที่ ๑ ว่า :-
                        ดูก่อนขุนกระบี่     ท่านได้ทอดตัวเป็น
           สะพานให้เหล่าวานรข้ามไปโดยสวัสดี     ท่าน
           เป็นอะไรกับวานรเหล่านั้น  และวานรเหล่านั้น
           เป็นอะไรกับท่าน ?
         คาถานั้นมีเนื้อความว่า ดูก่อนขุนกระบี่ผู้เจริญท่านทำตนให้เป็น
สะพานคอยกตนให้เป็นคาน    แล้วสละชีพให้ฝูงวานรเหล่านี้ข้ามไปโดย
สวัสดี    คือให้ข้ามไปโดยเกษม.    ท่านได้เป็นอะไรกับพวกเขาหรือพวก
เขาเหล่านี้   ได้เป็นอะไรกับท่าน  หรือวานรเหล่านี้   เป็นอะไรกับเรา.
         พระโพธิสัตว์ได้สดับคำนั้นแล้ว    เมื่อจะตักเตือนเพราะราชา  จึง
กล่าวคาถาที่เหลือว่า :-
หน้า ๓๓๘