พระองค์กำหนดตรวจดูพระเชตวันอยู่ ทรงทราบวิตกของภิกษุเหล่านั้น |
ฟุ้งขึ้น ทรงดำริว่า กิเลสนี้เมื่อฟุ้งขึ้นในภายในของภิกษุเหล่านี้. จักทำ |
ลายเหตุแห่งอรหัตผลเสีย เราตถาคตจักข่มกิเลสแล้วมอบให้ซึ่งอรหัตผล |
แก่ภิกษุเหล่านั้นเดี๋ยวนี้แหละ. แล้วเสด็จออกจากพระคันธกุฎี รับสั่งให้ |
หาพระอานนท์เถระมาแล้วตรัสสั่งให้ประชุมว่า ดูก่อนอานนท์ เธอจง |
ให้ภิกษุผู้อยู่ภายในโกฏิสัณฐารทั้งหมดประชุมกัน. เสด็จประทับนั่งบน |
พุทธอาสน์ที่ปูลาดไว้แล้ว ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่ควร |
เป็นไปในอำนาจของกิเลสที่เป็นไปแล้วในภายใน ด้วยว่ากิเลสเมื่อเจริญ |
ขึ้น ย่อมให้ถึงความพินาศมา เหมือนปัจจามิตร. ธรรมดาภิกษุ กิเลส |
แม้มีประมาณเล็กน้อยก็ควรข่มไว้. บัณฑิตในกาลก่อน เห็นอารมณ์ |
ประมาณเล็กน้อย ก็ข่มกิเลสที่เป็นไปแล้วในภายในไว้ให้ปัจเจกโพธิ- |
ญาณเกิดขึ้น แล้วทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้ :- |
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติอยู่ในนคร |
พาราณสี พระโพธิสัตว์ถือกำเนิดในตระกูลช่างหม้อ ในหมู่บ้านใกล้ |
ประตูนครพาราณสี เจริญวัยแล้วได้ครอบครองสมบัติ มีบุตรชาย |
๑ คน บุตรหญิง ๑ คน เลี้ยงบุตรภรรยาโดยอาศัยการทำหม้อ. ใน |
กาลครั้งนั้น พระราชาทรงพระนามว่า กรกัณฑะ ในทันตปุรนคร |
แคว้นกลิงคะมีพระราชบริพารมาก เมื่อเสด็จไปพระราชอุทยาน ทอด. |
พระเนตรเห็นต้นมะม่วงใกล้ประตูพระราชอุทยาน มีผลน่าเสวย เต็มไป |
ด้วยผลเป็นพวง ประทับบนคอช้างต้นนั้นเอง ทรงเหยียดพระหัตถ์ออก |