๓๕๕    ๕๙.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕    ๓๕๗
         พระโพธิสัตว์ครั้นได้สดับคาถาแต่ละคาถา    ได้ทำการสดุดีพระ-
ปัจเจกพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ  ดังข้าพระองค์ขอ
โอกาส      อารมณ์นั่นเหมาะสมสำหรับเหล่าข้าพระองค์ทีเดียว.     ก็แล
พระโพธิสัตว์ครั้นสดับธรรมกถานั้น  ที่ท่านทั้ง   ๔  ทรงแสดงแล้ว   เป็น
ผู้ไม่มีเยื่อใยในฆราวาส      เมื่อพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายเสด็จไปแล้ว
รับประทานอาหารเช้าแล้ว       นั่งสำราญอยู่      ได้เรียกภรรยามาพูดว่า
พระปัจเจกพุทธเจ้า   ๔  องค์นี้   สละราชสมบัติออกผนวชไม่มีกังวล ไม่มี
ห่วงใยให้กาลเวจาล่วงไปด้วยความสุขเกิดจากการบรรพชา  ส่วนเราเลี้ยง
ชีพด้วยค่าจ้าง      เราจะประโยชน์อะไรด้วยการครองเรือน        เธอจง
สงเคราะห์คือเลี้ยงดูลูกอยู่ในบ้านเกิด    แล้วกล่าวคาถา  ๒  คาถาว่า :-
                        พระราชาเหล่านี้คือ     พระเจ้ากรกัณฑะ
           ของชาวคลิงคะ   ๑     พระเจ้านัคคชิของชาว
           คันธาร   ๑  พระเจ้านิมิราชของชาววิเทหะ  ๑
           พระเจ้าทุมมุขะของชาวปัญจาละ  ๑   ทรงละ
           แว่นแคว้นออกผนวช     หาความห่วงใยมิได้.
                        พระราชาเหล่านี้  แม้ทุกพระองค์   เสมอ
           ด้วยเทพเจ้าเสด็จมาพบกัน ย่อมสง่างามเหมือน
           ไฟลุกฉะนั้น     ดูก่อนนางผู้มีโชค     แม้เราก็
หน้า ๓๕๖