๓๕๗    ๕๙.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕    ๓๕๙
ละวัตถุกามทั้งหลาย      ตามที่ตั้งอยู่นั่นเอง     ด้วยสามารถแห่งส่วนมีรูป
เป็นต้น   แล้วก็จักบวชเที่ยวไปผู้เดียว.   ปาฐะว่า   ยโตธิกานิ     ดังนี้ก็มี
เนื้อความของปาฐะนั้นว่า   กามทั้งหลายมีส่วนที่สำรวมแล้ว  คือเว้นแล้ว
ได้แก่มีส่วนที่เว้นแล้ว.    บทว่า    ปพฺพชิสฺสามิ    ความว่า    เพราะว่า
ส่วน ๆ หนึ่งแห่งกิเลสกามทั้งหลาย    ชื่อว่าเป็นสิ่งที่เว้นแล้ว    จำเดิมแต่
เวลาที่คิดแล้ว.    แม้ส่วนของกามที่เป็นวัตถุของเขาที่ดับไปแล้ว    ก็เป็น
อันเขาเว้นแล้วเหมือนกัน.
         ภรรยานั้นครั้นได้ฟังถ้อยคำของเขาแล้ว      จึงพูดว่า  ข้าแต่นาย
ตั้งแต่เวลาได้ฟังธรรมกถาของพระปัจเจกพุทธเจ้าแล้ว      แม้ฉันเองใจก็
ไม่สถิตอยู่ในบ้าน   แล้วได้กล่าวคาถานี้ว่า :-
                        เวลานี้เท่านั้น   เวลาอื่นนอกจากนี้จะไม่
           มีเลย    ภายหลังคงไม่มีผู้พร่ำสอนฉัน   ข้าแต่
           ท่านผู้มีโชค   ฉันเองก็จักพ้นจากมือชายเที่ยว
           ไปคนเดียว  เหมือนนางนกพ้นจากข้อง ฉะนั้น.
         บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า   อนุสาสิโต   เม    น     ภเวยฺย    ปจฺฉา
ความว่า     ภรรยาชี้แจงว่า     ผู้พร่ำสอนคือผู้ตักเตือนคงไม่มี    เพราะผู้
ตักเตือนหาได้ยาก   เพราะฉะนั้น   เวลานี้เท่านั้นเป็นเวลาบวช  เวลาอื่น
ไม่มีแล้ว.    บทว่า   สกุณีว   มุตฺตา    ความว่า    เมื่อนางนกทั้งหลายถูก
หน้า ๓๕๘