บรรดาคาถาเหล่านั้น คาถาที่ ๑ มีเนื้อความว่า คนบางตนใน |
โลกนี้เป็นชาติแห่งผู้ไม่รู้ คือโง่ก่อน. บทว่า ยาวตาสึสตี ความว่า |
ตราบใดเขายังหวังอยู่ว่า คนนี้จักอาจกระทำสิ่งนี้แก่เรา ตราบนั้นเขา |
ก็ยังคบหาสมาคมคนคนนั้นอยู่ แต่ในเวลาเขาเสื่อมประโยชน์แล้ว คือ |
ในเวลาไม่ถึงความเจริญแล้ว ได้แก่เวลาเสื่อมเสียแล้ว คนโง่บางจำพวก |
ก็จะละทิ้งคน ๆ นั้น ผู้ดำรงอยู่แล้วในกิจนานาชนิด เหมือนขัตติยราช- |
พระองค์นี้ ทรงละทิ้งช้างพังโอฏฐิพยาธิตัวนี้ ฉะนั้น. บทว่า กตกลฺ- |
ยาโณ ความว่า ผู้มีกัลยาณธรรมที่ผู้อื่นทำแล้วแก่ตน. บทว่า กตตฺโถ |
ความว่า ผู้สำเร็จกิจแล้ว. บทว่า นาวพุชฺฌติ ความว่า ไม่ระลึกถึง |
อุปการะนั้น ที่คนอื่นทำแล้ว ในเวลาเขาแก่แล้ว คือยึดเอายศแม้ที่ตน |
ให้แล้วอีกคืน. บทว่า ปลุชฺชนฺติ ความว่า หักสะบั้นไปคือพินาศไป. |
ด้วยบทว่า เย โหนฺติ อภิปตฺถิตา พระโพธิสัตว์แสดงว่า ขึ้นชื่อว่าคน |
โง่บางพวกที่ปรารถนาแล้ว จะพินาศทั้งหมด. เพราะว่า ความปรารถนา |
นั้นของบุคคลผู้ประทุษร้ายต่อมิตรจะพินาศไป เหมือนพืชที่วางไว้ใกล้ |
ไฟฉะนั้น. บทว่า กตตฺโถ มนุพุชฺฌติ ท่านรับเอาแล้วด้วยสามารถ |
แห่งพยัญชนะสนธิ. บทว่า ตํ โว วทามิ ความว่า เพราะเหตุนั้น |
ข้าพเจ้าขอกล่าวกะท่านทั้งหลาย. บทว่า สฺสถ ความว่า ท่านทั้งหลาย |
เป็นคนกตัญญูจักเสวยทิพยสมบัติสถิตอยู่ในสวรรค์ตลอดกาลนาน. |
พระมหาสัตว์ได้ให้โอวาทแก่คนทั้งหมด ตั้งต้นแต่พระราชาที่ |
มาประชุมกันแล้ว. พระราชาทรงสดับโอวาทนั้นแล้ว ได้ทรงแต่งตั้งยศ |