ต้อนรับเราไกลถึงในป่า ที่ไม่มีคนนี้. บทว่า อายติ ความว่า ถึงพร้อม |
ด้วยกาลที่ยาวนาน. |
ดาบสเดินมาพลางคร่ำครวญไปพลางอย่างนี้ เห็นลูกช้างนั้นล้ม |
อยู่ที่จงกรมแล้ว เมื่อจับคอคร่ำครวญอยู่ จึงกล่าวคาถาที่ ๒ ว่า :- |
นี้เองคือช้างโสมทัตตเชือกนั้น นอนตาย |
แล้ว มันนอนตายอยู่ที่พื้นดิน เหมือนยอด |
เถาย่านทราย ที่ถูกเด็ดทิ้งแล้ว โสมทัตตกุญชร |
ได้ตายไปแล้วหนอ. |
วา ศัพท์ ในคำว่า อยํ วา ในคาถานั้น มีความหมายว่า ทำ |
ให้แจ่มชัด. ดาบสเมื่อจะให้เรื่องนั้นชัดแจ้งว่า ช้างเชือกนี้เอง คือช้าง |
โสมทัตตนั้น ไม่ใช่เชือกอื่น. บทว่า อลฺลปิตํ ได้แก่ ปลายหน่อของเถา |
ย่านทราย. บทว่า วิจฺฉิโต ความว่า เด็ดขาดแล้ว มีอธิบายว่า เหมือน |
หน่อเถาย่านทราย ที่เขาเอาเล็บเด็ดทิ้งลงที่เนินทรายร้อน ๆ ในกลางฤดู |
ร้อน. บทว่า. ภุมฺยา ได้แก่ ภูมิยํ คือบนพื้นดิน. บทว่า อมรา วต |
ความว่า ตายแล้วหนอ. ปาฐะว่า อมรี ก็มี. |
ในขณะนั้น ท้าวสักกะกำลังตรวจดูสัตว์โลก ทรงเห็นเหตุการณ์ |
นั้น ทรงดำริว่า ดาบสนี้ละทิ้งลูกเมียไปบวชแล้ว บัดนี้ยังมาสร้างความ |
สำคัญในลูกช้างว่าเป็นลูกคร่ำครวญอยู่ เราจักให้ท่านสลดใจแล้วได้สติ |