พระเสโทไหลออกจากพระนลาฏ ที่เสมือนกับแผ่นทองของพระโพธิสัตว์ |
ผู้ทรงสะดุ้ง เพราะทรงเห็นพระเกษาหงอกเท่านั้น แล้วก็ทรงกลัว. |
พระองค์เมื่อทรงโอวาทตน ทรงดำริว่า ดูก่อนสุสีมะ เจ้าเป็นคนหนุ่ม |
แต่กลายเป็นคนแก่ไปแล้ว เจ้าจมอยู่ในเปือกตม คือกาม เหมือนหมู |
บ้านจมอยู่แล้วในเปือกตม คือคูถ ฉะนั้น ไม่สามารถถอนตนขึ้นได้ |
บัดนี้เป็นเวลาของเจ้าที่จะละกามทั้งหลายเข้าสู่ป่าหิมพานต์บวช แล้ว |
ประพฤติพรหมจรรย์มิใช่หรือ ? ดังนี้ แล้วจึงได้กล่าวคาถาที่ ๑ ว่า :- |
เมื่อก่อนผมสีดำ เกิดบนศีรษะของเจ้า |
ตามที่ของมันแล้ว สุสีมะเจ้า วันนี้เจ้าเห็น |
เส้นผมเหล่านั้นมีสีขาว แล้วจงประพฤติธรรม |
เถิด เวลานี้เป็นเวลาแห่งการประพฤติพรหม |
จรรย์แล้ว. |
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ยถาปเทเส ความว่า พระโพธิสัตว์ |
ตรัสว่า ก่อนแต่นี้ ผมทั้งหลายมีสีเหมือนแมลงภู่และดอกอัญชัญ ได้ |
เกิดแล้วบนศีรษะของเจ้า ซึ่งเป็นถิ่นที่เหมาะแก่ผมทั้งหลายในที่นั้น ๆ |
บทว่า ธมฺมํ จร ความว่า พระโพธิสัตว์ทรงบังคับตนเองว่า เจ้าจง |
ประพฤติธรรม คือกุศลกรรมบถ ๑๐. บทว่า พฺรหฺมจริยสฺส มีเนื้อ |
ความว่า เป็นเวลาแห่งเมถุนวิรัติของเจ้าแล้ว. เมื่อพระโพธิสัตว์พรรณนา |
คุณการประพฤติพรหมจรรย์อย่างนี้แล้ว พระราชินีทรงสะดุ้งพระทัย |