ก็ต้องเปลี่ยนเป็นสีขาวเหมือนใยป่านไปหมด. จริงอยู่ เมื่อวัยของกุมาร |
ทั้งหลายที่เช่นกับพวงดอกไม้ มีดอกอุบลเขียวเป็นต้น และของขัตติย- |
กัญญาเป็นต้น ผู้เปรียบปานกับด้วยรูปทอง อุดมสมบูรณ์ด้วยความ |
หนุ่มสาวและความสง่างาม มีความเปลี่ยนแปลงเป็นที่สุด ได้เปลี่ยน |
แปลงไปแล้ว เราจะเห็นทั้งสิ่งที่น่าตำหนิทั้งความชำรุดแห่งสรีระของ |
คนทั้งหลาย ผู้ถึงความชราแล้ว ดูก่อนนางผู้เจริญ ก็เมื่อเป็นเช่นนี้ |
โลกของสัตว์ผู้มีชีวิตนั้น ก็มีความวิบัติเป็นจุดจบ ดังนี้แล้ว เมื่อทรง |
แสดงธรรมด้วยพุทธลีลาในเบื้องสูง จึงได้กล่าวคาถาทั้ง ๒ ว่า :- |
เราเห็นกุมารีรุ่นสาว ผู้มีรูปร่างสวยงาม |
มีผิวพรรณเกลี้ยงเกลา มีทรวดทรงเฉิดฉาย |
อ่อนละมุนละไมเหมือนเถากาลวัลลี ต้องลม |
โชย เอนตัวเข้าใกล้ชายเหมือนยั่วยวนชายอยู่ |
ฉะนั้น ต่อมาเราได้เห็นนารีคนนั้น มีความชรา |
มีอายุล่วงไป ๘๐ ปี ๙๐ ปี ถือไม้เท้าสั่นงกงัน |
มีร่างกายโค้งค้อมลงเหมือนกลอนเรือนเดินไป. |
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า โว เป็นเพียงนิบาต. บทว่า สา- |
มฏฺปสฺสํ ความว่า มีต้นแขนเกลี้ยงเกลา อีกอย่างหนึ่ง ปาฐะก็เป็น |
สมฏฺปสฺสํ นั่นแหละ. อธิบายว่า มีผิวพรรณเกลี้ยงเกลาที่ต้นแขน |
ทั้งหมด. บทว่า สุตนุํ ได้แก่ มีรูปร่างสวยงาม. บทว่า สุมชฺฌํ ได้แก่ |