๓๘๙    ๕๙.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕    ๓๙๑
ก็ต้องเปลี่ยนเป็นสีขาวเหมือนใยป่านไปหมด. จริงอยู่  เมื่อวัยของกุมาร
ทั้งหลายที่เช่นกับพวงดอกไม้   มีดอกอุบลเขียวเป็นต้น   และของขัตติย-
กัญญาเป็นต้น    ผู้เปรียบปานกับด้วยรูปทอง     อุดมสมบูรณ์ด้วยความ
หนุ่มสาวและความสง่างาม    มีความเปลี่ยนแปลงเป็นที่สุด   ได้เปลี่ยน
แปลงไปแล้ว    เราจะเห็นทั้งสิ่งที่น่าตำหนิทั้งความชำรุดแห่งสรีระของ
คนทั้งหลาย    ผู้ถึงความชราแล้ว    ดูก่อนนางผู้เจริญ    ก็เมื่อเป็นเช่นนี้
โลกของสัตว์ผู้มีชีวิตนั้น   ก็มีความวิบัติเป็นจุดจบ   ดังนี้แล้ว   เมื่อทรง
แสดงธรรมด้วยพุทธลีลาในเบื้องสูง   จึงได้กล่าวคาถาทั้ง ๒ ว่า :-
                        เราเห็นกุมารีรุ่นสาว     ผู้มีรูปร่างสวยงาม
           มีผิวพรรณเกลี้ยงเกลา      มีทรวดทรงเฉิดฉาย
           อ่อนละมุนละไมเหมือนเถากาลวัลลี    ต้องลม
           โชย  เอนตัวเข้าใกล้ชายเหมือนยั่วยวนชายอยู่
           ฉะนั้น  ต่อมาเราได้เห็นนารีคนนั้น  มีความชรา
           มีอายุล่วงไป  ๘๐ ปี ๙๐ ปี    ถือไม้เท้าสั่นงกงัน
           มีร่างกายโค้งค้อมลงเหมือนกลอนเรือนเดินไป.
         บรรดาบทเหล่านั้น   บทว่า  โว   เป็นเพียงนิบาต.   บทว่า  สา-
มฏฺ€ปสฺสํ   ความว่า   มีต้นแขนเกลี้ยงเกลา  อีกอย่างหนึ่ง  ปาฐะก็เป็น
สมฏฺ€ปสฺสํ   นั่นแหละ.   อธิบายว่า   มีผิวพรรณเกลี้ยงเกลาที่ต้นแขน
ทั้งหมด.   บทว่า  สุตนุํ  ได้แก่  มีรูปร่างสวยงาม.  บทว่า  สุมชฺฌํ  ได้แก่
หน้า ๓๙๐