มีลำตัวได้สัดส่วนทรวดทรงดี. บทว่า กาลปฺปลฺลวาว ปเวลฺลมานา |
ความว่า อุปมาเหมือนหนึ่งว่า เถากาลวัลลี เถาหญ้านาง ที่ขึ้นดี ๆ งาม ๆ |
ในเวลายังเล็ก ยังเป็นยอดอ่อนอยู่ทีเดียว ต้องลมโชยเบา ๆ ก็โอนเอน |
ไปมาทางโน้นทางนี้ฉันใด หญิงสาวนั้นก็ฉันนั้นเหมือนกัน เอนตัว |
เข้าไปทำร้ายความสง่างามของหญิง. บทว่า ปโลภยนฺตีว นเรสุ คจฺฉติ |
เป็นสัตตมีวิภัติลงในอรรถว่าใกล้. หญิงสาวนั้นไปใกล้สำนักชายทั้งหลาย |
เป็นเหมือนยั่วยวนชายเหล่านั้นอยู่. บทว่า ตเมน ปสฺสามิ ปเรน นารึ |
ความว่า สมัยต่อมาเราเห็นหญิงคนนี้นั้นถึงความชรา คือความ สวยงาม |
แห่งรูปที่หายไปแล้วหมดความสวยงาม. พระโพธิสัตว์กล่าวถึงคุณของ |
รูปด้วยคาถาที่ ๑ บัดนี้ เมื่อจะแสดงถึงโทษ จึงได้กล่าวอย่างนี้. บทว่า |
อาสีติกํ นาวุติกญฺจ ชจฺจา ความว่า ๘๐ ปี หรือ ๙๐ ปี แต่เกิดมา |
บทว่า โคปาณสีภคฺคสมํ มีเนื้อความว่า มีร่างกายคดค้อมเหมือน |
กลอนเรือน คือมีสรีระคดโค้งเหมือนกลอนเรือน เดินหลังค่อมเหมือน |
กับหาเก็บเงินกากณึกหนึ่งที่หายไป. ก็ขึ้นชื่อว่า หญิงที่พระโพธิสัตว์ |
เคยเห็นเมื่อเวลายังสาว แล้วได้เห็นอีกในเวลาอายุ ๙๐ ปี ไม่มีก็จริงแล |
แต่ว่า คำนี้ ท่านกล่าวหมายเอาภาวะของหญิงที่เห็นได้ด้วยญาณ. |
พระมหาสัตว์ ครั้นทรงแสดงโทษของรูปด้วยคาถานี้ โดย |
ประการอย่างนี้แล้ว บัดนี้ เมื่อจะทรงประกาศความเบื่อหน่ายของตน |
ในการครองเรือน จึงได้ตรัสคาถา ๒ คาถาไว้ว่า :- |