เราครุ่นคิดถึงคุณและโทษของรูปนั้นอยู่ |
นั่นเอง จึงนอนอยู่กลางที่นอนแต่คนเดียว |
เราเมื่อพิจารณาเห็นว่า ถึงเราก็จะเป็นอย่างนี้ |
จึงไม่ยินดีในเรือน เวลานี้เป็นเวลาแห่งการ |
ประพฤติพรหมจรรย์ ความยินดีของผู้อยู่ครอง |
เรือนนี้แหล เป็นเหมือนเชือกผูกเหนี่ยวไว้ |
ธีรชนตัดเชือกนี้ได้แล้ว ไม่อาลัยใยดี จะละ |
กามสุข แล้วหลีกเว้นหนี. |
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า โสหํ ตัดบทเป็น โส อหํ ความว่า |
เรานั้น บทว่า ตเมวานุวิจินฺตยนฺโต ความว่า ครุ่นคิดถึงคุณและโทษ |
ของรูปทั้งหลายนั้นนั่นเอง. บทว่า เอวํ อิติ เปกฺขมาโน ความว่า |
พิจารณาเห็นอยู่ว่า หญิงนี้เปลี่ยนแปลงไปแล้วฉันใด ถึงฉันก็เป็นฉัน |
นั้น คือจักถึงความชรา มีสรีระคดค้อมลงไป. บทว่า เคเห น รเม |
ความว่า เราไม่ยินดีในเรือน. บทว่า พฺรหฺมจริยสฺส กาโล ความว่า |
พระโพธิสัตว์ทรงแสดงว่า ดูก่อนนางผู้เจริญ เวลานี้เป็นเวลาการ |
ประพฤติพรหมจรรย์ของเรา เพราะฉะนั้น เราจักออกบวช. จ อักษร |
ในคำว่า รชฺชุ วาลมฺพนี เจสา เป็นเพียงนิบาต อธิบายว่า สิ่งนี้ |
เป็นเสมือนเครื่องผูกเหนี่ยวไว้. สิ่งนี้คืออะไร คือความยินดีของผู้อยู่ |
ในเรือนใด. อธิบายว่า ความยินดีด้วยอำนาจของกามในอารมณ์ทั้งหลาย |