๔๑๓    ๕๙.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕    ๔๑๕
           เพราะประมาท    ข้าพเจ้าตื่นอยู่.    พระอริยเจ้า
           เหล่าใดสำรอกราคะโทสะและอวิชชาออกแล้ว
           เมื่อพระอริยเจ้าเหล่านั้นตื่นอยู่   ข้าพเจ้าเป็นผู้
           หลับแล้ว    ท่านเทวดา.     เมื่อพระอริยเหล่า-
           นั้นตื่นอยู่  ข้าพเจ้าชื่อว่าเป็นผู้หลับแล้วอย่างนี้
           แต่เมื่อคนทั้งหลายหลับแล้ว        ข้าพเจ้าชื่อว่า
           เป็นผู้ตื่นอย่างนี้         ข้าพเจ้าเข้าใจปัญหาข้อนี้
           อย่างนี้   ข้าพเจ้าแก้ปัญหาของท่านอย่างนี้.
         บรรดาบทเหล่านั้น   บทว่า    กถํ   ชาครตํ   สุตฺโต   ความว่า
ท่านชื่อว่าเป็นผู้ตื่นแล้ว ในระหว่างสัตว์ทั้งหลายผู้ตื่นอยู่อย่างไร ? ใน
ทุกบทก็มีนัยนี้.     บทว่า    เย    ธมฺมํ    ความว่า    สัตว์เหล่าใดไม่รู้ชัด
โลกุตตรธรรมทั้ง  ๙  อย่าง.   บทว่า    สญฺโมติ   ทโมติ   จ   ความว่า
และไม่รู้ทั้งศีล   ทั้งอินทรีย์สังวร ที่มาแล้วโดยมรรคอย่างนี้ว่า นี้สัญญมะ
นี้ทมะ.   จริงอยู่อินทรีย์สังวรท่านเรียกว่า     ทมะ     เพราะข่มอินทรีย์
ทั้งหลาย    มีใจเป็นที่  ๖  ไว้.    บทว่า    เตสุ    สุตฺตปฺปมาเทสุ    ความว่า
เมื่อสัตว์เหล่านั้นหลับแล้ว    ด้วยอำนาจกิเลสข้าพเจ้าก็ตื่น    ด้วยอำนาจ
แห่งความไม่ประมาท.   คาถาว่า   เยสํ  ราโค  จ  เป็นต้น   มีเนื้อความว่า
กิเลสเหล่านี้     คือราคะ    กล่าวคือ   ความโลภ   ๑,๕๐๐  ที่ท่านแสดงไว้
ด้วยสตบท   โทสะที่มีอาฆาตวัตถุ ๙ ประการเป็นสมุฏฐาน   และอวิชชา
หน้า ๔๑๔