๔๒๗    ๕๙.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕    ๔๒๙
         บรรดาบทเหล่านั้น   บทว่า    ธนธญฺา   ได้แก่   ทรัพย์มีแก้ว
มุกดาเป็นต้น   และธัญชาติ ๗ ชนิด.   บทว่า   ป€วี  จ  เกวลา  ได้แก่
แผ่นดินใหญ่นี้ทั้งสิ้นด้วย.  พระราชาตรัสสำคัญหมายว่า แผ่นดินทั้งหมด
ตกอยู่ในเงื้อมพระหัตถ์ของพระองค์แล้ว.   บทว่า  ปสฺส   ผลํ   กุมฺมาส-
ปิณฺฑิยา    ความว่า     พระราชาเมื่อทรงแสดงผลทานของพระองค์ด้วย
พระองค์เอง   จึงตรัสอย่างนี้.    ได้ทราบมาว่า  พระโพธิสัตว์ก็ดี  พระ-
สรรเพชญพุทธเจ้าทั้งหลายก็ดี   ทรงทราบผลของทานอยู่.    และเพราะ
เหตุนั่นเอง     พระศาสดา     เมื่อตรัสพระสูตรในอิติวุตตกะ   จึงตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย    ก็เมื่อเป็นเช่นนี้    สัตว์ทั้งหลายก็ควรรู้วิบากของ
การแจกจ่ายทาน   ดังที่เราตถาคตรู้  เพราะฉะนั้น  คนทั้งหลายยังไม่ได้
ให้   ก็ไม่ควรบริโภค   และไม่ควรให้ความตระหนี่ที่เป็นมลทินครอบงำ
จิตใจของพวกเขาตั้งอยู่.    ทั้งยังไม่ได้แจกจ่าย    แม้จากคำข้าวคำสุดท้าย
คำข้าวคำที่กินเสร็จของพวกเขาก็ไม่ควรบริโภค    ถ้าพวกเขาพึงมีปฏิคา-
หก.     ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย     ก็เพราะเหตุที่สัตว์ทั้งหลายไม่รู้วิบากของ
การแจกจ่ายทานอย่างนี้    เหมือนที่เราตถาคตรู้   ฉะนั้น    สัตว์ทั้งหลาย
ยังไม่ให้ก็บริโภค   และความตระหนี่ที่เป็นมลทิน    ก็ครอบงำจิตใจพวก
เขาตั้งอยู่.
         ฝ่ายพระโพธิสัตว์     ทรงมีปีติปราโมทย์เกิดขึ้นในวันฉัตรมงคล
ของตน     จึงทรงร้องเพลงพระราชอุทาน    ด้วยคาถา ๒ คาถาเหล่านี้.
หน้า ๔๒๘