๔๔๓    ๕๙.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕    ๔๔๕
พระโพธิสัตว์ทรงสดับคำนั้นแล้ว     ทรงเปิดพระแกลแล้วตรัสว่า  บน
ศาลามีใครไหม ?  เมื่อชายคนหนึ่งลุกขึ้นแล้วทูลว่า    ข้าพระองค์พระ-
เจ้าข้า   จึงตรัสว่า ไปเถิดไปเอาผ้าสาฎกและแหวนสวมนิ้วของชายที่ตาย
อยู่ในสระโบกขรณีนั้นแล้วปล่อยร่างของมันให้จมอยู่ในน้ำ    โดยวิธีที่
มันจะไม่ลอยขึ้น. เขาได้ทำอย่างนั้นแล้ว  แม่สุนัขนั้นก็โกรธอีกแล้วร้อง
ขู่พระโพธิสัตว์ว่า  ในวันก่อนเขาไม่ได้ให้ลูกข้ากินรองเท้า  วันนี้ไม่ให้
กินคนตาย  ในวันที่  ๓  พระเจ้าสมันตราชองค์หนึ่ง จักมาล้อมพระนคร
ไว้   ครั้งนั้นพระราชบิดาจักส่งเขาไปเพื่อต้องการให้รบ   พระเจ้าสมันต-
ราชจักตัดศีรษะของท่าน  ณ ที่นั้น    เมื่อเป็นเช่นนั้นเราจักดื่มเลือดใน
ลำคอของแกแล้วพ้นเวร   ดังนี้แล้วพาลูกออกไป.   ในวันที่  ๓  พระเจ้า
สมันตราชเสด็จมาล้อมพระนครไว้.     พระราชาตรัสกะพระโพธิสัตว์ว่า
ไปเถิดลูกเอ๋ย    จงต่อสู้กับพระเจ้าสมันตราชนั้น.    พระโพธิสัตว์ทูลว่า
ข้าแต่สมมติเทพ   มีเหตุอย่างหนึ่งที่ข้าพระองค์เห็นแล้ว  ข้าพระองค์ไม่
สามารถไปได้   ข้าพระองค์กลัวอันตรายแห่งชีวิต  พระราชาตรัสว่า  เมื่อ
เจ้าตายหรือไม่ตายก็ตาม   จะมีประโยชน์อะไรสำหรับฉัน    เจ้าจงไปเถิด.
พระมหาสัตว์รับกระแสพระบรมราชโองการแล้วพาบริษัทไป      ไม่ได้
ออกทางประตูด้านที่พระเจ้าสมันตราชทรงตั้งทัพ  ทรงเปิดประตูด้านอื่น
เสด็จออกไป.   เมื่อพระมหาสัตว์นั้นเสด็จออกไป   พระนครได้ว่างเปล่า.
คนทั้งหลายได้ออกไปกับพระมหาสัตว์หมดทีเดียว.  พระมหาสัตว์ทรงให้
พักค่ายอยู่    ณ  ที่ที่มีส่วนเหมาะสมกันแห่งหนึ่ง.   พระราชาทรงดำริว่า
หน้า ๔๔๔