พระโพธิสัตว์ทรงสดับคำนั้นแล้ว ทรงเปิดพระแกลแล้วตรัสว่า บน |
ศาลามีใครไหม ? เมื่อชายคนหนึ่งลุกขึ้นแล้วทูลว่า ข้าพระองค์พระ- |
เจ้าข้า จึงตรัสว่า ไปเถิดไปเอาผ้าสาฎกและแหวนสวมนิ้วของชายที่ตาย |
อยู่ในสระโบกขรณีนั้นแล้วปล่อยร่างของมันให้จมอยู่ในน้ำ โดยวิธีที่ |
มันจะไม่ลอยขึ้น. เขาได้ทำอย่างนั้นแล้ว แม่สุนัขนั้นก็โกรธอีกแล้วร้อง |
ขู่พระโพธิสัตว์ว่า ในวันก่อนเขาไม่ได้ให้ลูกข้ากินรองเท้า วันนี้ไม่ให้ |
กินคนตาย ในวันที่ ๓ พระเจ้าสมันตราชองค์หนึ่ง จักมาล้อมพระนคร |
ไว้ ครั้งนั้นพระราชบิดาจักส่งเขาไปเพื่อต้องการให้รบ พระเจ้าสมันต- |
ราชจักตัดศีรษะของท่าน ณ ที่นั้น เมื่อเป็นเช่นนั้นเราจักดื่มเลือดใน |
ลำคอของแกแล้วพ้นเวร ดังนี้แล้วพาลูกออกไป. ในวันที่ ๓ พระเจ้า |
สมันตราชเสด็จมาล้อมพระนครไว้. พระราชาตรัสกะพระโพธิสัตว์ว่า |
ไปเถิดลูกเอ๋ย จงต่อสู้กับพระเจ้าสมันตราชนั้น. พระโพธิสัตว์ทูลว่า |
ข้าแต่สมมติเทพ มีเหตุอย่างหนึ่งที่ข้าพระองค์เห็นแล้ว ข้าพระองค์ไม่ |
สามารถไปได้ ข้าพระองค์กลัวอันตรายแห่งชีวิต พระราชาตรัสว่า เมื่อ |
เจ้าตายหรือไม่ตายก็ตาม จะมีประโยชน์อะไรสำหรับฉัน เจ้าจงไปเถิด. |
พระมหาสัตว์รับกระแสพระบรมราชโองการแล้วพาบริษัทไป ไม่ได้ |
ออกทางประตูด้านที่พระเจ้าสมันตราชทรงตั้งทัพ ทรงเปิดประตูด้านอื่น |
เสด็จออกไป. เมื่อพระมหาสัตว์นั้นเสด็จออกไป พระนครได้ว่างเปล่า. |
คนทั้งหลายได้ออกไปกับพระมหาสัตว์หมดทีเดียว. พระมหาสัตว์ทรงให้ |
พักค่ายอยู่ ณ ที่ที่มีส่วนเหมาะสมกันแห่งหนึ่ง. พระราชาทรงดำริว่า |