อนุปายาสํ - ความไม่เหือดแห้งใจ. |
อสงฺกิลิฏฺํ - ความไม่เศร้าหมอง. |
บัดนี้ ท่านแสดงถึงความเกิดแห่งตัณหาแม้ที่ถึงความเป็นไป |
ไม่ได้ ถูกตัดด้วยมรรคเพราะอาศัยนิพพานในวัตถุใด เพื่อแสดงความ |
ไม่มีในวัตถุนั้น พระสารีบุตรจึงกล่าวว่า สา ปเนสา เป็นอาทิ. |
ในบทนั้น มีความว่า เหมือนบุรุษเห็นเถากระดอมและน้ำเต้า |
เกิดในพื้นที่ จึงค้นหารากตั้งแต่ยอดแล้วตัดทิ้ง, เถากระดอมและเถา |
น้ำเต้านั้น เหี่ยวแห้งไปโดยลำดับแล้วก็หมดไป, แต่นั้นควรพูดว่า |
กระดอมและน้ำเต้าในฟันที่นั้นก็หมดหายไป ฉันใด ตัณหาในจักษุ |
เป็นต้นก็ดุจกระดอมและน้ำเต้าในพื้นที่นั้น ฉันนั้น. ตัณหานั้นถูกตัด |
ด้วยอริยมรรคเสียแล้วก็ถึงความหมดสิ้นไป เพราะอาศัยนิพพาน. ครั้น |
ตัณหาถึงความหมดไปอย่างนี้แล้วก็ไม่ปรากฏในวัตถุเหล่านั้น ดุจกระ- |
ดอมและน้ำเต้าในพื้นที่ ฉะนั้น. |
อนึ่ง เหมือนอย่างว่า ราชบุรุษนำโจรมาจากดงแล้วฆ่าที่ประตู |
ทักษิณของนคร แต่นั้นควรกล่าวได้ว่า โจรตายเสียแล้วหรือถูกฆ่า |
ตายเสียแล้วในดง ฉันใด ตัณหาในจักษุเป็นต้น ดุจโจรในดง ฉัน |
นั้น, ตัณหานั้นดับไปแล้วในนิพพาน เพราะอาศัยนิพพานจึงได้ดับไป |
ดุจโจรที่ประตูทักษิณ. ตัณหาดับไปอย่างนี้ ไม่ปรากฏในวัตถุเหล่านั้น |
ดุจโจรในดง, ด้วยเหตุนั้นพระสารีบุตร เมื่อจะแสดงถึงความดับตัณหา |