๔๗๘    ๖๘.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑ ๖๘.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑    ๔๗๙
             ภิกษุย่อมยังกิจ คือ ความไม่เกิดขึ้นแห่งอกุศลธรรมเหล่านั้น  ที่
ยังไม่เกิดขึ้นและกิจคือการละอกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้วให้สำเร็จ  เหมือน
อย่างที่กุศลธรรมยังไม่เกิดพึงเกิดขึ้น.
              อนึ่งในบทว่า  อุปฺปนฺนา นี้    อุปปันนะ   คือธรรมที่เกิดขึ้นมี
๔    อย่าง   คือ
              วตฺตมานุปฺปนฺนํ - เกิดขึ้นกำลังเป็นไป ๑
              ภูตาปคตุปฺปนฺนํ - เกิดขึ้นเสพอารมณ์แล้วดับไป ๑
              โอกาสกตุปฺปนฺนํ - เกิดขึ้นทำโอกาส ๑
              ภูมิลทฺธุปฺปนฺนํ - เกิดขึ้นในภูมิที่ได้ ๑.
              ในอุปปันนะเหล่านั้น  ธรรมที่เกิดมาพร้อมกับ อุปปาทะ  ชรา
ภังคะ - เกิด  แก่   ตาย   ชื่อว่า  วตฺตมานุปฺปนฺนํ.
              กุศลอกุศลเสวยรสอารมณ์แล้วดับไป    คือ  เสพแล้วก็ปราศไป
และสังขตธรรมที่เหลือ   กล่าวคือ  เข้าถึงลักษณะ ๓ มีอุปปาทะเป็นต้น
แล้วดับไปคือเสพแล้ว  เป็นไปทั่วแล้ว   ชื่อว่า  ภูตาปคคุปฺปนฺนํ.
             ชื่อว่า   โอกาสกตุปฺปนฺนํ   เพราะห้ามกรรมอันเป็นวิบากอื่นที่
มีอยู่  แม้ในอดีตดังที่ท่านกล่าวไว้โดยนัยมีอาทิอย่างนี้ว่า  กรรมที่ผู้นั้น
ได้ทำไว้แล้วในชาติก่อน  แล้วทำโอกาสแห่งวิบากของตนตั้งอยู่   และ
๑. ม. อุ. ๑๔/๔๗๑.
เพราะวิบากอันเป็นโอกาสที่ตนทำไว้แล้วอย่างนั้น  แม้ยังไม่เกิดก็จะเกิด
ขึ้นโดยส่วนเดียวในโอกาสที่ตนทำไว้อย่างนั้น
             อกุศลที่ยังไม่ถอนในภูมิ ๓  นั้น ๆ  ชื่อว่า  ภูมิลทฺธุปฺปนฺนํ.
             อนึ่ง  ในบทนี้พึงทราบความต่างกันของ  ภูมิ  และ  ภูมิลัทธะ
- ภูมิอันได้แล้ว   จริงอยู่ขันธ์ ๕  อันเป็นไปในภูมิ ๓ เป็นอารมณ์แห่ง
วิปัสสนา  ชื่อว่า  ภูมิ  กิเลสชาตอันควรเกิดในขันธ์เหล่านั้น    ชื่อว่า
ภูมิลัทธะ,  เพราะเหตุที่กิเลสนั้นได้ภูมิ  ฉะนั้นท่านจึงกล่าวว่า  ภูมิ-
ลัทธะ, ภูมินั้นไม่ได้ด้วยอารมณ์. จริงอยู่กิเลสทั้งหลายปรารภขันธ์ แม้
ทั้งหมดทั้งในอดีต  อนาคต  และแม้ที่พระขีณาสพกำหนดรู้แล้ว  ย่อม
เกิดขึ้นด้วยอารมณ์.  ผิว่าอารมณ์จะพึงชื่อว่า   ภูมิลัทธะ  แล้ว ใคร ๆ ก็
จะพึงละมูลรากของภพไม่ได้  เพราะละ ภูมิลัทธะ  นั้นยังไม่ได้.  อนึ่ง
พึงทราบ  ภูมิลัทธะ  ด้วยสามารถวัตถุ  จริงอยู่ขันธ์ที่กำหนดรู้ไม่ได้
ด้วยวิปัสสนาใน  ภูมิลัทธะ  ใด ๆ, กิเลสชาตอันเป็นมูลของวัฏฏะจำเดิม
แต่ใน  ภูมิลัทธะ  นั้น  ย่อมนอนเนื่องอยู่ในขันธ์เหล่านั้น.    พึงทราบ
ว่า  กิเลสชาต  นั้น  ชื่อว่า  ภูมิลัทธะ  ด้วยอรรถว่ายังละไม่ได้.
             อนึ่ง  ในบทนั้นมีความว่า  ขันธ์ทั้งหลายของผู้ที่มีกิเลสนอน-
เนื่องอยู่ด้วยอรรถว่ายังละไม่ได้  เป็นที่ตั้งแห่งกิเลสเหล่านั้น. ขันธ์
ทั้งหลายมิใช่ของคนอื่น  อนึ่ง  ขันธ์ในอดีตเป็นที่ตั้งของกิเลสที่ยังละ
ไม่ได้และนอนเนื่องอยู่ในขันธ์ในอดีต.  ขันธ์นอกนี้ไม่เป็นที่ตั้ง  ขันธ์