เกิดขึ้น. ฌานนั้นเว้นฌานเป็นบาท หรือฌานที่พิจารณาแล้ว ย่อม |
ไม่สำเร็จโดยเพียงอัธยาศัยเท่านั้น. อนึ่ง แม้ในวาทะของพระเถระ |
ก็พึงทราบวิปัสสนานิยม โดยนัยดังกล่าวแล้วนั่นแล. |
บทว่า อยํ วุจฺจติ สมฺมาสมาธิ - นี้ท่านกล่าวว่าสัมมาสมาธิ |
ความว่า ความที่จิตมีอารมณ์เดียวในฌาน ๔ เหล่านี้ ในส่วนเบื้องต้น |
เป็นโลกิยะ, ในส่วนเบื้องปลายเป็นโลกุตระ ท่านกล่าวว่า ชื่อว่า |
สัมมาสมาธิ. พระธรรมเสนาบดีสารีบุตรแสดงมรรคสัจด้วยโลกิยะ |
และโลกุตระด้วยประการฉะนี้. |
องค์มรรคทั้งหมดในโลกิยมรรคนั้น เป็นอารมณ์อย่างใดอย่าง |
หนึ่ง ในอารมณ์ ๖ ตามสมควร. ส่วนในโลกุตรมรรค สัมมาทิฏฐิ |
อันเป็นปัญญาจักษุถอนอวิชชานุสัย มีนิพพานเป็นอารมณ์ของความ |
เป็นอริยะ เป็นไปแล้วด้วยการแทงตลอดอริยะสัจ ๔, |
อนึ่ง สัมมาสังกัปปะ คือการยกขึ้นสู่บทแห่งนิพพานทางใจ |
ถอนมิจฉาสังกัปปะ ๓ อย่าง สัมปยุตด้วยสัมมาทิฏฐินั้น ของผู้มี่ทิฏฐิถึง |
พร้อมแล้ว, |
สัมมาวาจา เว้นมิจฉาวาจา ถอนวจีทุจริต ๔ อย่าง สัมปยุต |
ด้วยสัมมาสังกัปปะนั้นของผู้เห็นและตรึกอย่างนั้น |
สัมมากัมมันตะ เว้นมิจฉากัมมันตะตัดมิจฉากัมมันตะ ๓ อย่าง |
สัมปยุตด้วยสัมมาวาจานั้นของผู้เว้นอย่างนั้น, |