ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา ชนเหล่านั้น |
ย่อมแทงตลอดได้ยากกว่าโดย๑แท้ ดังนี้. |
สัจจะทั้งหลายเป็นวิสภาคะกันเพราะกำหนดด้วยลักษณะของ |
ตน. สัจจะสองข้างต้นเป็นสภาคะกัน ด้วยอรรถว่าเรียนรู้ยากเพราะลึกซึ้ง |
เพราะเป็นโลกิยะ และเพราะมีอาสวะ, เป็นวิสภาคะกัน เพราะต่างเป็น |
เหตุผลกัน และเพราะควรกำหนดรู้และควรละ. แม้สองข้อหลังก็เป็น |
สภาคะกันด้วยความเป็นธรรมลึกซึ้ง เพราะเรียนรู้ได้ยาก เพราะเป็น |
โลกุตระ และเพราะไม่มีอาสวะ, เป็นวิสภาคะกัน เพราะต่างก็เป็นใหญ่ |
ในวิสัย และเพราะควรทำให้แจ้ง ควรทำให้เกิด. แม้ข้อที่ ๑ และ |
ข้อที่ ๓ ก็เป็นสภาคะกันโดยอ้างถึงผล, เป็นสภาคะกันโดยเป็นสังขตะ |
และอสังขตะ. แม้ข้อที่ ๒ และข้อที่๔ ก็เป็นวิสภาคะกันโดยอ้างถึงเหตุ |
เป็นวิสภาคะกันโดยเป็นกุศลและอกุศลส่วนเดียว สัจจะที่ ๑ และที่ ๔ |
เป็นสภาคะกัน เป็นสังขตธรรมด้วยกัน, เป็นวิสภาคะกันโดยเป็นโลกิยะ |
และโลกุตร ธรรมข้อที่ ๒ และข้อที่ ๓ ก็เป็นสภาคะกันโดยความเป็น |
เสกขะก็ไม่ใช่ อเสกขะก็ไม่ใช่, เป็นวิสภาคะกันโดยมีอารมณ์ และ |
ไม่มีอารมณ์. ท่านกล่าวไว้ว่า |
อิติ เอวํ ปกาเรหิ นเยหิ จ วิจกฺขโณ |
วิชญฺา อริยสจฺจานํ สภาคติสภาคตํ |
|