เป็นอธิจิต พระโยคาวจรย่อมเห็นสังวรปาริสุทธิโดยชอบ ย่อมเห็น |
อวิกเขปปาริสุทธิโดยชอบ ทัสนปาริสุทธิความบริสุทธิ์แห่งทัสนะ. เป็น |
อธิปัญญา. |
ในความสำรวม ความไม่ฟุ้งซ่านและทัสนะนั้น ความสำรวม |
เป็นอธิศีลสิกขา ความไม่ฟุ้งซ่านเป็นอธิจิตสิกขา ความเห็นแจ้ง เป็น |
อธิปัญญาสิกขา พระโยคาวจรเมื่อนึกถึงสิกขา ๓ นี้ ชื่อว่าย่อมศึกษา |
เมื่อรู้ เมื่อเห็น เมื่อพิจารณา เมื่ออธิฏฐานจิต เมื่อน้อมใจไปด้วย |
ศรัทธา เมื่อประคองความเพียรไว้ เมื่อตั้งสติมั่น เมื่อตั้งจิตไว้ เมื่อ |
รู้ชัดด้วยปัญญา เมื่อรู้ยิ่งธรรมที่ควรรู้ยิ่ง เมื่อกำหนดรู้ธรรมที่ควร |
กำหนดรู้ เมื่อละธรรมที่ควรละ เมื่อเจริญธรรมที่ควรเจริญ เมื่อทำ |
ให้แจ้งซึ่งธรรมที่ควรทำให้แจ้ง ชื่อว่าย่อมศึกษา ทุกอย่าง. |
[๙๑]ศีล ๕ คือ การละปาณาติบาต อทินนาทาน กาเม- |
สุมิจฉาจาร มุสาวาท ปิสุณาวาจา ผรุสวาจา สัมผัปปลาปะ อภิชฌา |
พยาบาท มิจฉาทิฏฐิ การละกามฉันทะด้วยเนกขัมมะ การละความ |
พยาบาทด้วยความไม่พยาบาท การละถีนมิทธะด้วยอาโลกสัญญา การ |
ละอุทธัจจะด้วยความไม่ฟุ้งซ่าน การละวิจิกิจฉาด้วยการกำหนดธรรม |
การละอวิชชาด้วยญาณ การละอรติด้วยความปราโมทย์ การละนิวรณ์ |
ด้วยปฐมฌาน การละวิตกวิจารด้วยทุติยฌาน การละปีติด้วยตติยฌาน |
การละสุขและทุกข์ด้วยจตุตถฌาน การละรูปสัญญา, ปฏิฆสัญญา, นา- |
นัตตสัญญาด้วยอากาสานัญจายตนสมาบัติ การละอากาสานัญยายตน- |