สัญญาด้วยวิญญาณัญจายตนสมาบัติ การละวิญญาณัญจายตนสัญญา |
ด้วยอากิญจัญญายตนสมาบัติ การละอากิญจัญจญยตนสัญญาด้วยเนว- |
สัญญานาสัญญายตนสมาบัติ การละนิจสัญญาด้วยอนิจจานุปัสนา การ |
ละสุขสัญญาด้วยทุกขานุปัสนา การละอัตสัญญาด้วยอนัตตานุปัสนา |
การละนันทิด้วยนิพพิทานุปัสนา การละราคะด้วยวิราคานุปัสนา การ |
ละสมุทัยด้วยนิโรธานุปัสนา การละอาทานะด้วยปฏินิสสัคคานุปัสนา |
การละฆนสัญญาด้วยขยานุปัสนา การละอายุหนะด้วยวยานุปัสนา การ |
ละธุวสัญญาด้วยวิปริณาตานุปัสนา การละนิมิตด้วยอนิมิตตานุปัสนา |
การละปณิธิด้วยอัปปณิหิตานุปัสนา การละอภินิเวสด้วยสุญญตานุปัสนา |
การละสาราทานาภินิเวสด้วยอธิปัญญาธรรมวิปัสสนา การละสัมโมหา |
ภินิเวสด้วยยถาภูตญาณทัสนะ การละอาลยาภินิเวสด้วยอาทีนวานุปัสนา |
การละอัปปฏิสังขาดัวยปฏิสังขานุปัสสนา การละสังโยคาภินิเวสด้วย |
วิวัฏฏนานุปัสนา การละกิเลสที่ตั้งอยู่ร่วมกันกับทิฏฐิด้วยโสดาปัตติมรรค |
การละกิเลสที่หยาบ ๆ ด้วยสกทาคามิมรรค การละกิเลสที่ละเอียดด้วย |
อนาคามิมรรค การละกิเลสทั้งปวงด้วยอรหัตมรรค การละนั้น ๆ เป็น |
ศีล เวรมณีเป็นศีล . . .เมื่อทำให้แจ้งซึ่งธรรมที่ควรทำให้แจ้ง ชื่อว่า |
ย่อมศึกษา. |
ชื่อว่าญาณ เพราะอรรถว่ารู้ธรรมนั้น ๆ ชื่อว่าปัญญา เพราะ |
อรรถว่ารู้ชัด เพราะเหตุนั้นท่านจึงกล่าวว่า ปัญญาในการฟังธรรมแล้ว |
สำรวมไว้เป็นสีลมยญาณ. |