๕๕๖    ๖๘.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑ ๖๘.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑    ๕๕๗
แล้วในกุศลธรรมคือวิปัสสนา    เพราะทำติดต่อกัน    และเพราะทำด้วย
ความเคารพ.
          ในบทนี้ว่า    เสกฺขปริยนฺเต  ปริปูรการีนํ - ผู้กระทำให้บริบูรณ์
ในธรรมอันเป็นที่สุดของพระเสกขะ  มีความดังต่อไปนี้,  ชื่อว่า  เสกฺขา
เพราะเกิดในสิกขา ๓ บ้าง,  เพราะธรรมเหล่านี้ของพระเสกขะ ๗ จำพวก
บ้าง,  เพราะพระเสกขะทั้งหลายย่อมศึกษาด้วยตนเองบ้าง. ได้แก่   ธรรม
คือ    โสดาปัตติมรรค    โสดาปัตติผล    สกทาคามิมรรค    สกทาคามิผล
อนาคามิมรรค  อนาคามิผล และอรหัตมรรค.     ชื่อว่า  เสกฺขปริยนฺโต
เพราะอรรถว่ามีเสกขธรรมในที่สุด    คือในอวสาน,   หรือมีเสกขธรรม
อันเป็นที่สุด    คือมีกำหนด.    พึงเชื่อมความว่า   ในธรรมอันเป็นที่สุด
ของพระเสกขะนั้น.
            ชื่อว่า    ปริปูรการิโน    เพราะอรรถว่ากัลยาณปุถุชน   ย่อมทำ
กุศลธรรมให้เต็มรอบ   คือให้บริบูรณ์.    หรือกัลยาณปุถุชนมีการบริบูรณ์
เต็มรอบ  คือทำให้บริบูรณ์,  ของกัลยาณปุถุชนเหล่านั้นผู้ทำให้บริบูรณ์
ในปฏิปทาธรรมอันเป็นที่สุดของพระเสกขะ    อันเป็นส่วนเบื้องต้นของ
โสดาปัตติมรรค   ด้วยความบริบูรณ์แห่งวิปัสสนา.
           ในบทนี้ว่า   กาเย  จ  ชีวิเต  จ  อนเปกฺขนํ - ผู้ไม่อาลัยใน
ร่างกายและชีวิต   มีความดังต่อไปนี้    บทว่า   กาเย   คือสรีระ   จริงอยู่
สรีระ  ท่านกล่าวว่า  กาย เพราะเป็นที่สะสมความไม่สะอาดของร่างกาย
มีผมเป็นต้นอันน่าเกลียด     และเพราะเป็นที่มาหลายร้อยโรคมีจักขุโรค
เป็นต้น.
            บทว่า  ชีวิเต ได้แก่  ชีวิตินทรีย์.   เพราะว่า  ชีวิตินทรีย์  นั้น
ท่านกล่าวว่า  ชีวิต เพราะอรรถว่าเป็นเหตุให้เป็นอยู่.  ชื่อว่า อนเปกฺขา
เพราะอรรพว่าไม่มีอาลัยในชีวิต   อธิบายว่า  หมดความเยื่อใย.   กัลยาณ
ปุถุชนเหล่านั้น   ผู้ไม่อาลัยในร่างกายและในชีวิตนั้น.
           บัดนี้     พระสารีบุตร    เมื่อจะแสดงเหตุของความเป็นผู้ไม่อาลัย
ในร่างกายและชีวิตของกัลยาณปุถุชนเหล่านั้น   จึงกล่าวว่า  ปริจฺจตฺต-
ชีวิตานํ - ผู้สละชีวิตแล้ว.    จริงอยู่    กัลยาณปุถุชนเหล่านั้นเป็นผู้ไม่
อาลัยในร่างกาย    แม้ลำบากในชีวิต   แม้อับเฉา   ด้วยการสละชีวิตของ
ตนแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า   หรือแต่อาจารย์.
           บทว่า   สตฺตนฺนํ   เสกฺขานํ - พระเสกขะ  ๗ จำพวก    ได้แก่
พระอริยบุคคล ๗ จำพวก    มีท่านผู้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติมรรคเป็นต้นได้
ชื่อว่า   เสกขะ  เพราะยังต้องศึกษา.
           บทว่า  ตถาคตสาวกานํ  ได้แก่  สาวกของพระตถาคต.   จริงอยู่
พระอริยบุคคล ๘ จำพวก    ชื่อว่า    สาวก    เพราะอรรถว่าฟังเทศนา
การพร่ำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าโดยความเคารพ   ด้วยตั้งปสาทะอัน
ไม่หวั่นไหว  เพราะเกิดในชาติอันเป็นอริยะในที่สุดของการฟัง.   แม้ใน
พระอริยบุคคลเหล่านั้น     พระสารีบุตรเมื่อจะแสดงให้วิเศษในผู้ตั้งอยู่