นี้ชื่อว่า ญาณสังวร. แม้การเฉพาะปัจจัย ก็ย่อมเข้าใน |
บทนี้ด้วยเหมือนกัน. ความสำรวมมาแล้วโดยนัยมีอาทิว่า ขโม โหติ |
สีตสฺส อุณฺหสฺส๑ - ภิกษุเป็นผู้อดทนต่อความหนาวความร้อน นี้ชื่อว่า |
ขันติสังวร. ความสำรวมมาแล้วโดยนัยมีอาทิว่า อุปปนฺนํ กามวิตกฺกํ |
นาธิวาเสติ๒ - ภิกษุอดกลั้นกามวิตกที่เกิดขึ้น นี้ชื่อว่า วีริยสังวร. |
แม้ว่าอาชีพบริสุทธิ์ก็รวมเข้าในบทนี้ด้วยเหมือนกัน. ความสำรวม ๕ อย่าง |
นี้ด้วยประการฉะนี้, อนึ่ง เจตนาเว้นจากวัตถุที่มาถึงของกุลบุตร |
แม้อาชีพบริสุทธิ์ก็รวมเข้าในบทนี้ด้วยเหมือนกัน. ความสำรวม ๕ อย่าง |
นี้ด้วยประการฉะนี้, อนึ่ง เจตนาเว้นจากวัตถุที่มาถึงของกุลบุตร |
ผู้กลัวบาป, พึงทราบว่าทั้งหมดนั้นเป็น สังวรศีล. |
บทว่า อวีติกฺกโม สีลํ-ความไม่ก้าวล่วงเป็นศีล ได้แก่ ความ |
ไม่ก้าวล่วงทางกายและทางวาจาของผู้สมาทานศีล. นี้เป็นการแก้ปัญหา |
ว่า กึ สีลํ อะไรเป็นศีลไว้เพียงนี้ก่อน. |
ในการแก้ปัญหาว่า กติ สีลานิ - ศีลมีเท่าไร เพราะปกติของ |
สัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น ๆ ในโลก ท่านกล่าวว่า สีลํ ไว้ในบทนี้ว่า |
กุสลสีลํ - กุศลเป็นศีล อกุสลสีลํ - อกุศลเป็นศีล อพฺยากตสีลํ - |
อัพยากฤตเป็นศีล, อาจารย์ทั้งหลายกล่าวหมายถึงศีลว่า นี้เป็น สุขศีล |
- ความสุขเป็นศีล นี้เป็น ทุกขศีล - ความทุกข์เป็นศีล นี้เป็น |
กลหศีล - การทะเลาะกันเป็นศีล นี้เป็น มัณฑนศีล - การตบแต่ง |
เป็นศีล. ฉะนั้นโดยปริยายนั้น แม้ อกุสลศีล ท่านก็กล่าวว่าเป็นศีล |
|