| มูลโต คือ ปาณาติบาต มี ๒ มูลเหตุด้วยสามารถแห่ง โทสะ และ |
| โมหะ , อทินนาทาน มี ๒ มูลเหตุด้วยสามารถ โทสะ และ โมหะ |
| หรือด้วยสามารถแห่ง โลภะ และ โมหะ มิจฉาจาร มี ๒ มูลเหตุ |
| ด้วยสามารถแห่ง โลภะ และ โมหะ, มุสาวาท มี ๒ มูลเหตุด้วย |
| โทสะและโมหะหรือด้วยสามารถแห่งโลภะและโมหะ, ปิสุณา วาจา |
| และ สัมผัปปลาปะ ก็อย่างนั้น. ผรุสวาจา มี ๒ มูลเหตุด้วยสามารถ |
| แห่งโทสะและโมหะ, อภิชฌา มี ๑ มูลเหตุด้วยสามารถแห่งโมหะ, |
| พยาบาท ก็อย่างนั้น. มิจฉาทิฏฐิ มี ๒ มูลเหตุด้วยสามารถแห่ง |
| โลภะและโมหะ ด้วยประการฉะนี้. |
| จบ อกุศลกรรมมถกถา |
| ชื่อว่า กุศลกรรมบถ มี ๑๐ อย่างเหล่านี้ คือ การเว้นจาก |
| ปาณาติบาตเป็นต้น และอนภิชฌา อัพยาบาท สัมมาทิฏฐิ. ชื่อว่า วิรติ |
| เพราะอรรถว่า เป็นเหตุเว้นจากปาณาติบาตเป็นต้น, หรือ เว้นเอง, |
| หรือ เพียงเว้นเท่านั้น. การเว้นสัมปยุตด้วยกุศลจิตของผู้เว้นจาก |
| ปาณาติบาตเป็นต้น มี ๓ อย่าง คือ สัมปัตตวิรัติ ๑ สมาทานวิรัติ ๑ |
| สมุจเฉทวิรัติ ๑. |
| ในวิรัติ ๓ อย่างนั้น วิรัติเกิดแก่ผู้ยังไม่สมาทานสิกขาบท ผู้ |
| พิจารณาถึงชาติ วัย พาหุสัจจะเป็นต้น ของตนแล้วไม่ก้าวล่วงสัมปัตต- |
| วัตถุ ด้วยคิดว่า การทำบาปเห็นปานนี้ไม่สมควรแก่เราดังนี้ ชื่อว่า |