| ไม่มีความฟุ้งซ่านแห่งอารมณ์ต่างๆ, ความแห่งเป็น เอกคฺโคนั้น |
| ชื่อว่า เอกคฺคตา เพื่อแสดงความที่มีจิตมีอารมณ์หนึ่งนั้น ไม่ใช่สัตว์ |
| ท่านจึงกล่าวว่า จิตฺตสฺส. |
| ในหมวด ๒ บทว่า โลกิโย วัฏฏะท่านกล่าวว่า โลโก เพราะ |
| อรรถว่าแตกสลายไป, สมาธิประกอบแล้วในโลก โดยความเป็นสมาธิ |
| เนื่องอยู่ในวัฏฏะนั้น เพราะเหตุนั้นจึงชื่อว่า โลกิยะ. |
| บทว่า โลกุตฺตโร ชื่อว่า อุตตระ เพราะข้ามไปแล้ว, ชื่อว่า |
| โลกุตระ เพราะข้ามไปจากโลกโดยความเป็นสมาธิไม่เนื่องอยู่ในโลก |
| ในหมวด ๓ ชื่อว่า สวิตกฺกสวิจาโร เพราะสมาธิมีวิตกและ |
| วิจาร. สมาธิไม่มีวิตกไม่มีวิจารก็ทำนองนั้น. ในสมาธิที่มีวิตกและวิจาร |
| ชื่อว่า วิจารมตฺโต เพราะอรรถว่ามีแต่วิจารเท่านั้นเป็นประมาณ |
| อธิบายว่า สมาธิไม่ถึงการประกอบร่วมกันกับด้วยวิตกยิ่งกว่าวิจาร. ชื่อว่า |
| อวิตกฺกวิจารมตฺโต เพราะสมาธินั้นไม่มีวิตกมีแต่วิจาร. แม้ใน ๓ อย่าง |
| อาจารย์บางพวกก็ตัดออกไป. หมวด ๔ หมวดมีอธิบายไว้แล้ว. |
| ในหมวด ๖ สตินั่นแลเพราะเกิดขึ้นบ่อย ๆ จึงชื่อว่า อนุสติ, |
| อีกอย่างหนึ่งชื่อว่าอนุสติ เพราะสมควรแก่กุลบุตรผู้บวชด้วยศรัทธา |
| เพราะเป็นไปในฐานะที่ควรเป็นไปบ้าง, อนุสติ เกิดขึ้นปรารภถึง |
| พระพุทธเจ้า ชื่อว่า พุทธานุสติ. บทนี้เป็นชื่อของสติมีคุณของพระ |