| อาจารย์ทั้งหลายย่อมพรรณนา ความแห่งบททั้งหลายเหล่านี้อย่างนี้ว่า |
| ความเป็นผู้ฉลาด ในการน้อมไปในสมาธินั้น ๆ ด้วยประการฉะนี้. |
| หมวด ๘ มีอรรถดังกล่าวแล้ว. ในหมวด ๙ บทว่า รูปาวจโร |
| ธรรมเป็นรูปเป็นไฉน? รูปาวจรเนื่องในรูปาวจรธรรม ดังที่ท่าน |
| กล่าวไว้โดยนัยมีอาทิว่า เหฏฺโต พฺรหฺมโลกํ ปริยนฺตํ กริตฺวา |
| อุปริโต อกนิฏฺเ เทเว อนฺ โตกริตฺวา๑ เบื้องล่าง ทำพรหมโลกใหัมี |
| ที่สุด เบื้องบนทำเทพชั้นอกนิฏฐ์เป็นที่สุด. ในข้อนี้มีวจนัตถะดังต่อไปนี้ |
| นี้ ชื่อว่า รูปาวจร เพราะอรรถว่ารูป ได้แก่ รูปขันธ์ ย่อมเที่ยวไป |
| ในรูปภพนี้, ไม่ใช่กามภพ, เพราะว่าแม้รูปขันธ์ท่านก็กล่าวว่ารูป ดุจ |
| ในบทมีอาทิว่า รูปกฺขนฺโธ รูปํ ๒- รูปขันธ์เป็นรูป. อนึ่ง รูปพรหมนั้น |
| มี ๑๖ ชั้น คือ |
| พรหมปาริสัชชะ ๑ |
| พรหมปุโรหิต ๑ |
| มหาพรหม ๑ |
| ปริตตาภา ๑ |
| อัปปมาณาภา ๑ |
| อาภัสสรา ๑ |
| ปริตตสุภา ๑ |
|
|
| อัปปมาณสุภา ๑ |
| สุภกิณหา ๑ |
| อสัญญีสัตว์ ๑ |
| เวหัปผลา ๑ |
| อวิหา ๑ |
| อตัปปา ๑ |
| สุทัสสา ๑ |
| สุทัสสี ๑ |
| อกนิฏฐา ๑. |
| ที่อยู่กล่าวคือรูปาวจรภพนั้นท่านกล่าวว่า รูป เพราะลบบทหลัง, |
| ชื่อว่า รูปาวจร เพราะเที่ยวไปในรูปนั้น. อีกอย่างหนึ่ง รูป คือ รูปภพ, |
| ชื่อว่า รูปาวจร เพราะเที่ยวไปในรูปภพนั้น. จริงอยู่ สมาธินี้เที่ยว |
| ไปแม้ในกามภพ แม้เมื่อเที่ยวไปในที่อื่น ท่านก็กล่าวว่า รูปาวจรภพ |
| เหมือนช้างได้ชื่อว่า สงฺคามาวจร เพราะเที่ยวไปในสงความ แม้ |
| เที่ยวไปในเมืองก็เรียกว่าสังคามาวจร, เหมือนสัตว์ทั้งหลายเที่ยวไปบน |
| บก และเที่ยวไปในน้ำ แม้สัตว์เหล่านั้นจะอยู่ในที่ไม่ใช่บก ไม่ใช่น้ำ |
| ก็เรียกว่า เที่ยวไปบนบก เที่ยวไปในน้ำ ฉะนั้น. อีกอย่างหนึ่ง |
| ชื่อว่า รูปาวจร เพราะยังปฏิสนธิให้เที่ยวไปในรูปคือรูปภพ. |
|